Page 68 - kpi12626
P. 68
การวิเคราะห์ฐานะทางการเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น:
4.2 วิธีการคำนวณและการวิเคราะห์ผล
วิธีการคำนวณดัชนีชี้วัดความยั่งยืนทางงบประมาณทั้ง 4 ประการ
พร้อมค่าอ้างอิงจากเทศบาลกลุ่มตัวอย่างในปีงบประมาณ 2552 แสดง
ดังตารางที่ 4-1 ต่อไปนี้ ทั้งนี้ค่าอ้างอิงของเทศบาลกลุ่มตัวอย่างแสดงเป็น
ช่วงใน 4 ลักษณะได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (mean) และค่าลำดับเปอร์เซ็นไทล์ คู่มือสำหรับนักบริหารงานท้องถิ่นในยุคใหม่
(percentile) ที่ลำดับร้อยละ 25, 50, และ 75 ตามลำดับ ผู้บริหารขององค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถเลือกใช้ค่าอ้างอิงที่ลำดับต่างๆ สำหรับการ
เปรียบเทียบกับความยั่งยืนทางงบประมาณขององค์กรตนเองได้ตามสมควร
เมื่อได้คำนวณค่าดัชนีชี้วัดความยั่งยืนทางงบประมาณในด้านต่างๆ
แล้ว ผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรประเมินว่าดุลงบประมาณ
สัดส่วนรายจ่ายที่จัดเก็บมาจากภาษีท้องถิ่นเอง และระดับเงินสะสมของ
องค์กรอยู่ในระดับที่น่าพอใจมากน้อยเพียงใดเมื่อเปรียบเทียบกับค่าอ้างอิง
ของเทศบาลกลุ่มตัวอย่างในปีงบประมาณ 2552 ยกตัวอย่างเช่น ค่าอ้างอิง
ของเทศบาลกลุ่มตัวอย่างชี้ให้เห็นว่าเทศบาลส่วนใหญ่ (ค่าเปอร์เซ็นไทล์ที่
50) มีดุลงบประมาณเป็นบวก โดยมีอัตราส่วนการดำเนินงานเท่ากับ 1.16
เท่า และมีเงินสะสมที่สามารถนำมาจ่ายขาดได้ (ไม่รวมทุนสำรองเงินสะสม)
ราวร้อยละ 26.7 ของขนาดงบประมาณรายจ่ายประจำปี หมายความว่า
เทศบาลส่วนใหญ่ยังคงมีรายรับรวมที่สูงกว่ารายจ่ายรวมราวร้อยละ 16 ของ
งบประมาณรายจ่าย และมีเงินสะสมที่สามารถนำออกมาใช้จ่ายในยาม
ฉุกเฉินได้ประมาณ 3.2 เดือน หากวิเคราะห์แล้วพบว่าองค์กรปกครองท้องถิ่น
แห่งหนึ่งมีระดับเงินสะสมและดุลงบประมาณที่สูงกว่าค่าอ้างอิงนี้ สามารถ
ตีความได้ว่าท้องถิ่นแห่งนี้มิได้มีข้อจำกัดทางด้านงบประมาณมากนัก
ในอนาคตอาจเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อการจัดบริการได้มากขึ้นราวร้อยละ 16
โดยเฉลี่ย ซึ่งอาจดำเนินการได้โดยการเพิ่มจำนวนหรือประเภทโครงการ
ในการจัดบริการสาธารณะ เร่งรัดการดำเนินโครงการและการเบิกจ่าย
งบประมาณให้ได้ตามที่ได้รับการอนุมัติ และ/หรืออาจนำเงินสะสมบางส่วน
ออกมาใช้จ่ายเพื่อการจัดบริการเพิ่มขึ้นได้ ดังนี้เป็นต้น