Page 158 - kpi17527
P. 158
ประชาธิปไตยไทยในทศวรรษใหม่
2559
ประเทศหรือกลุ่มประเทศต่างๆ จึงสรรหาและสร้างมาตรการใหม่ๆ ในการเข้มงวด
และกีดกันทางการค้า ในช่วงทศรรษที่ผ่านมา หลายประเทศต้องเผชิญปัญหา
ความรุนแรงจากขบวนการก่อการร้ายข้ามชาติ ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ และความ
วุ่นวายและความไม่มั่นคงทางการเมือง ที่ท้าทายภาครัฐให้ต้องเพิ่มงบประมาณ
และมาตรการเพื่อดูแลความมั่นคงภายในประเทศมากขึ้น นอกจากนี้
ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและข้อมูลข่าวสาร ยังส่งผลต่อ
การเปลี่ยนแปลงและสร้างเงื่อนไขกติกาใหม่ทางเศรษฐกิจ สังคม วิถีชีวิต รวมถึง
ความคิดทางการเมือง ประชาชนโดยรวมมีระดับความรู้ การรับรู้ข้อมูลข่าวสาร
และระดับการศึกษาสูงขึ้น กระแสการพัฒนาและแนวคิดทางการเมืองสู่ระบอบ
ประชาธิปไตยยุคใหม่ที่สุจริตปราศจากการทุจริต โปร่งใส เป็นระบบเปิด และ
เป็นธรรม ได้แผ่กระจายไปทั่วโลก
ประชาชนในสังคมยุคใหม่คาดหวังภาครัฐที่มีศักยภาพสูง (High
Performance Government) ที่จะสามารถบริหารราชการแผ่นดินอย่างมี
1 ประสิทธิภาพประสิทธิผล ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าประหยัด สามารถนำพา
ประเทศให้มีความมั่นคงมั่งคั่ง นอกจากนี้ ประชาชนยังต้องการบริการสาธารณะ
ที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูง ความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายในและ
ภายนอกประเทศ และความต้องการของประชาชนเหล่านี้ ส่งผลให้การบริหาร
ราชการแผ่นดินและจัดการระบบและกลไกต่างๆ ของประเทศในโลกยุคปัจจุบัน
ทวีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความรู้ความรอบคอบในการ
บริหารจัดการ มีการระบบบริหารจัดการที่เป็นธรรมาภิบาล และจำเป็นต้องแสวงหา
นวัตกรรมหรือวิธีการบริหารจัดการใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง
เหล่านี้ด้วย ในการบริหารราชการแผ่นดิน ระบบราชการเป็นกลไกหลักที่มี
บทบาทสำคัญในการแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติและการให้บริการสาธารณะต่างๆ
ประเทศที่พัฒนาทั้งหลายตระหนักดีถึงความสำคัญของกลไกภาครัฐที่จะเป็น
พลังขับเคลื่อนประเทศ ในขณะเดียวกัน ก็รับรู้ถึงปัญหาของระบบราชการ
โดยเฉพาะความด้อยประสิทธิภาพและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงได้
ปฏิรูปปรับเปลี่ยนระบบราชการและยกระดับมาตรฐานการบริหารราชการแผ่นดิน
ในประเทศเหล่านั้นอย่างจริงจัง โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม OECD หรือ กลุ่ม EU
รวมถึงการสร้างเงื่อนไขให้ประเทศต่างๆ ที่ต้องการเข้าร่วมหรือติดต่อค้าขายกัน
สถาบันพระปกเกล้า

