Page 205 - kpi17527
P. 205
12
(5) เคำรพกติกำ – ประชาธิปไตยต้องใช้ กติกา หรือ กฎหมาย ในการปกครอง ไม่ใช่ อ าเภอใจ
หรือ ใช้ก าลัง โดยทุกคนต้องเสมอภาคกันภายใต้กติกานั้น แต่ถึงแม้จะมีกฎหมาย หรือมีกติกา แต่หากว่า
ประชาชนไม่เคารพ หรือไม่ปฏิบัติตาม กติกาก็หามีประโยชน์อันใดไม่ ระบอบประชาธิปไตยจึงจะประสบ
ความส าเร็จได้ ต่อเมื่อมี “พลเมือง” ที่ เคำรพกติกำ และยอมรับ ผล ของการละเมิดกติกา “พลเมือง” จึง
ต้องเคารพ “กติกา” ถ้ามีปัญหาหรือมีความขัดแย้งเกิดขึ้นก็ต้องใช้วิถีทางประชาธิปไตยและใช้กติกาในการ
แก้ไข ไม่เล่นนอกกติกา และไม่ใช้ก าลังหรือความรุนแรง
(6) รับผิดชอบต่อสังคม – สังคมหรือประเทศชาติมิได้ ดีขึ้น หรือ แย่ลง โดยตัวของมันเอง ที่
สังคมแย่ลงไปทุกวันนี้ เป็นเพราะ การกระท า ของคน ในทางกลับกันสังคมก็ย่อมจะดีขึ้นได้ด้วย การ
กระท า ของคนในสังคม “พลเมือง” ในระบอบประชาธิปไตย จึงเป็นผู้ที่ตระหนักว่าตนเองเป็น สมาชิก
คนหนึ่งของสังคม และรับผิดชอบต่อการกระท าของตน “พลเมือง” จึงไม่ใช่คนที่ใช้สิทธิเสรีภาพตาม
อ าเภอใจ แล้วท าให้สังคม เสื่อม หรือเลวร้ายลงไป หากเป็นผู้ที่ใช้สิทธิเสรีภาพโดยตระหนักอยู่เสมอว่าการ
กระท าใดๆ ของตนเองย่อมมีผลต่อสังคมและส่วนรวม “พลเมือง” จึงต้องรับผิดชอบต่อสังคม และมอง
ตนเองเชื่อมโยงกับสังคม เห็นตนเองเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา และมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหานั้นโดย
ประชาธิปไตยไทยในทศวรรษใหม่
เริ่มต้นที่ตนเอง คือร่วม แก้ปัญหา ด้วยการ ไม่ก่อปัญหา และลงมือท าด้วยตนเอง ไม่ใช่เอาแต่เรียกร้องคน
2559
อื่น หรือเรียกร้องแต่รัฐบาลให้แก้ปัญหา แล้วตนเองก็ก่อปัญหานั้นต่อไป
เป็นเจ้าของชีวิตตนเอง ไม่อยู่ใต้การ ตระหนักว่าตนเป็นสมาชิกคนหนึ่งของ
ครอบง าหรือความอุปถัมภ์ของใคร และใช้ สังคม และมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา
สิทธิเสรีภาพโดยมีความรับผิดชอบ โดยไม่ก่อปัญหา และลงมือด้วยตนเอง
รับผิดชอบตนเอง พลเมือง รับผิดชอบต่อสังคม
และพึ่งตนเองได้ และส่วนรวม
เคารพสิทธิ เคารพกติกา
ผู้อื่น เคารพความ เคารพหลัก หรือกฎหมาย
แตกต่าง ความเสมอภาค
เคารพกติการ เคารพ
เคารพกติกา เคารพ
ไม่ใช้สิทธิ กฎหมาย ไม่ใช้กำลัง
กฎหมาย ไม่ใช้ก าลัง
เสรีภาพของตน ยอมรับความแตกต่าง เห็นคนเท่าเทียมกัน แก้ปัญหา และยอมรับผล 1
โดยมองคนเป็นแนว
ไปละเมิดสิทธิ และเคารพผู้อื่นที่ ระนาบ ไม่ใช่แนวดิ่ง แก้ปัญหา และยอมรับผล
ของการละเมิดกติกา
ของการละเมิดกติกา
เสรีภาพผู้อื่น แตกต่างจากตนเอง
คุณสมบัติของ “พลเมือง” ทั้งหกประการนี้ เราสามารถสรุปให้สั้นลงได้
เหลือสามประการคือ หนึ่ง เคารพผู้อื่น – เคารพสิทธิผู้อื่น เคารพความแตกต่าง
เคารพหลักความเสมอภาค สอง เคารพกติกา และ สาม มีส่วนร่วมรับผิดชอบ
ต่อสังคมโดยแก้ปัญหาโดยเริ่มต้นที่ตนเอง เมื่อประชาชนเป็น “พลเมือง” ก็จะ
เปลี่ยนจาก ภาระ หรือ ปัญหา กลายเป็น พละ ของ เมือง หรือ กำลังของเมือง
ปัญหาทุกอย่างของสังคมก็จะแก้ไขได้ สังคมก็จะเข้มแข็ง และประชาธิปไตยก็จะ
ประสบความสำเร็จ
สถาบันพระปกเกล้า