Page 445 - kpi17968
P. 445
434
ท้องถิ่นและระดับชาติต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมด
ยังเหลือเพียงสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของเทศบาลตำบลกับ
องค์การบริหารส่วนตำบลเท่านั้น ถ้าบุคคลเหล่านี้ยื่นบัญชีเท็จหรือไม่ยื่นก็จะมีโทษ
คือ ให้พ้นจากตำแหน่งทางการเมืองและห้ามดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 5 ปี อีกทั้ง
ยังมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ หาก
เราตรวจพบว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติจะส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อ
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากเป็นนักการเมือง
ก็จะขอให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน มีตัวอย่างที่ศาลฎีกาแผนกคดี
อาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน
ได้แก่ คดีของคุณรักเกียรติ สุขธนะ ศาลตัดสินไปแล้ว 233 ล้าน คดีของ
คุณณัฐกมล ศาลตัดสินไปแล้ว 68 ล้าน คุณสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อยู่ระหว่าง
การพิจารณาของศาลฏีกา
ผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดในเชิงป้องกันไม่ให้
เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเป็นคู่สัญญา หรือมีส่วนได้เสียในการทำสัญญากับ
หน่วยงานของรัฐ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ปปช.)กำหนดไว้มี 4 ตำแหน่ง คือ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้บริหารท้องถิ่น
รองผู้บริหารท้องถิ่น หากฝ่าฝืนบทบัญญัติเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน มาตรา 100
แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม
การทุจริต จะมีโทษตามมาตรา 122 ซึ่งมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ
ปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
อีกคดีหนึ่งที่เป็นการดำเนินการของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน
ตอนรัฐประหารปี 2549 ส่งต่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
แห่งชาติ ในตอนที่จะยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาง
การเมืองที่ทำงานร่วมกับอัยการ เป็นคดีสุดท้ายที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
กระบวนการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในทางวินัย บุคคลที่มี
สิทธิร้องขอให้ถอดถอน บุคคลที่จะถูกถอดถอน มีมูลเหตุ 4 มูลเหตุ คือ ร่ำรวย
การประชุมกลุมยอยที่ 5