Page 601 - kpi17968
P. 601
590
คำถามที่น่าสนใจจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญข้างต้น ได้มีผู้ตั้ง
ข้อสังเกตไว้หลายประเด็น ประการแรก ถ้าศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้ฝ่าย
นิติบัญญัติเป็นผู้แก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วใครควรมีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ที่มาจากการทำประชามติ ประการที่สอง หลักการตีความรัฐธรรมนูญ ซึ่งเหตุผล
ของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่อ้างถึงแนวทางการตีความบ่งบอกถึงวิธีการ
ตีความรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญไทยว่าใช้หลักการตีความตามเจตนารมณ์
ของรัฐธรรมนูญ ได้นำไปสู่คำถามต่อไปว่า แนวทางการตีความรัฐธรรมนูญ
ตามเจตนารมณ์หมายถึงอะไร มีหลักการแนวความคิดต่อการตีความอย่างไร และ
ยังน่าสนใจต่อไปอีกเมื่อมีนักกฎหมายได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การตีความและ
ประยุกต์ใช้รัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญข้างต้น แสดงว่านักกฎหมายเหล่านั้น
มีข้อเสนอแนะต่อการตีความรัฐธรรมนูญแบบเจตนารมณ์ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้
เลือกใช้อย่างไร หรือกระทั่งมีข้อเสนอเกี่ยวกับการตีความรัฐธรรมนูญแนวทางอื่น
หรือไม่อย่างไร ประการสุดท้าย ผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ยับยั้ง
การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยกระบวนการทางรัฐสภาข้างต้น จะส่งผลให้เกิดแนวทาง
การแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยองค์กรหรือสถาบันการเมืองอื่นได้หรือไม่ และถ้ามีจะ
เป็นไปในรูปแบบใด และจะมีกลไกอะไรบ้างที่จะช่วยตรวจสอบความชอบธรรม
ของการแก้ไขดังกล่าว
จากคำถามที่น่าสนใจหลายคำถามข้างต้น บทความนี้คงไม่สามารถจะ
ตอบคำถามที่ซับซ้อนเหล่านั้นได้ทั้งหมด ดังนั้นบทความนี้จึงเลือกพิจารณาเพียง
หลักการตีความกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยเริ่มจากการพิจารณาหลักการตีความ
ในต่างประเทศ เพื่อแสดงให้เห็นถึงข้อถกเถียง ข้อดีและข้อด้อยของแนวทาง
การตีความกฎหมายรัฐธรรมนูญต่างๆ และย้อนกลับมาทบทวนลักษณะของ
สังคมไทย เพื่อเสนอแนวทางการตีความรัฐธรรมนูญของไทยต่อไป ทั้งนี้
บทความนี้ได้เลือกกรณีศึกษาตามแนวทางการตีความรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ
เป็นหลัก เพราะสหรัฐฯ เป็นประเทศที่ได้วางรากฐานของสถาบันตุลาการอย่าง
ยาวนาน ผ่านความขัดแย้งต่างๆ หลายกรณีแต่ก็ยังดำรงเป็นสถาบันทางการเมือง
ที่มีความมั่นคงและต่อเนื่องได้ นอกจากนี้ศาลไทยเคยวางบทบาทหน้าที่ของศาลไว้
สอดคล้องกับศาลสูงของสหรัฐฯ ดังคำพิพากษาศาลฎีกาของไทยที่ 1/2489
ในเรื่อง พระราชบัญญัติอาชญากรสงคราม พ.ศ. 2488 ได้มีผลคำพิพากษาที่น่า
บทความที่ผานการพิจารณา