Page 179 - kpi18886
P. 179

171




                   พรรคจาก พรบ.พรรคการเมืองฉบับใหม่นี้ ต้องการกำหนดพรรคว่าจะต้องทำ

                   อะไร อย่างไร เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ถูกยุบพรรค และภายใน 1 ปี
                   จะต้องมีสมาชิก 5,000 คน และมีสมาชิก 10,000 คน ภายใน 4 ปี ยากมาก
                   สำหรับพรรคการเมืองใหม่ที่จะก่อตั้งและหาสมาชิกได้มากขนาดนี้ แม้แต่พรรค

                   เก่าเองก็เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องให้สมาชิกเหล่านี้จ่ายเงินค่าสมาชิก
                   ด้วย องค์ประกอบนี้ ผู้ร่างต้องการที่จะให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันและต้องการ
                   ให้ประชาชนหรือสมาชิกพรรคเป็นเจ้าของพรรคอย่างแท้จริง


                         เมื่อพิจารณาเรื่องเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง พรบ.พรรคการเมือง

                   ฉบับนี้เปลี่ยนการให้เงินกองทุน โดยร้อยละ 40 ให้กับพรรคการเมืองที่มีสมาชิก
                   และการคำนวณตรวจสอบเงินจากคนที่จ่ายเงินค่าบำรุงพรรคด้วย อีกร้อยละ 40
                   ให้ตามคะแนนเสียงที่พรรคการเมืองนั้นๆ ได้รับ แต่จะเป็นเฉพาะปีหลังจาก
                   การเลือกตั้ง ปีถัดมาจะให้ตามอัตราเงินบริจาคที่พรรคการเมืองนั้นๆ ได้รับซึ่งจะ

                   ไม่ได้รวมถึงเรื่องของจำนวน สส. อีกแล้ว พรบ.ฉบับนี้ พยายามผลักดันให้เกิด
                   การบริจาคเข้าพรรคการเมืองมากขึ้นเพื่อให้เกิดเป็นองค์กรจริงจังเหมือนใน
                   ต่างประเทศ สุดท้ายอีก 20% ที่เหลือตามจำนวนสาขาพรรค ซึ่งมีการกำหนดไว้

                   ว่าสาขาพรรคต้องทำงาน ทำกิจกรรมอะไร อย่างไรบ้าง จึงจะนำมาคำนวณ
                   ในการให้เงินกองทุนได้


                         เมื่อพิจารณาดู พรบ.การเลือกตั้งที่ยังไม่ประกาศกลับพยายามที่จะผลักดัน
                   ให้ตัวบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนั้นเป็นปัจจัยสำคัญมากกว่าตัวพรรคการเมือง
                   การเลือกตั้งครั้งหน้า สส. เลือกบัตรใบเดียวคะแนนจากเขตมาคำนวณเป็น

                   party list ดังนั้น เวลาหาเสียง สส. ต้องหาของตัวเองเต็มที่ถ้าไปอิงอยู่กับ
                   นโยบายพรรคจะไปไม่รอด เนื่องจากว่านโยบายพรรคจะสร้างนโยบายเพื่อ
                   แบ่งตามภูมิภาค บางนโยบายอาจจะไม่เป็นที่ต้องการของภาคใดภาคหนึ่ง สส.

                   ต้องพยายามผลักนโยบายหรือสิ่งที่ตัวเองจะทำให้กับพื้นที่มากกว่า ดังนั้น
                   ความเป็นพรรคจะหายไป นอกจากนั้น เวลาลงสมัครรับเลือกตั้งต่างคนต่างมีเบอร์
                   ของตัวเอง สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะกรรมาธิการมองว่าในบางจังหวัดหาก

                   พรรคการเมืองไม่ส่ง สส. ลงสมัคร จะทำให้เกิดตัวเลขหายไปในเขตนั้นๆ จึงให้
                   เขตไหนเขตนั้นจับเลขตามจังหวัดของตัวเอง ตัวอย่าง เชียงใหม่กับกรุงเทพ
                   แม้มาจากพรรคเพื่อไทยเหมือนกันแต่จะเป็นตัวเลขคนละตัวกัน ในทางปฏิบัติ




                                                                     การประชุมกลุมยอยที่ 1
   174   175   176   177   178   179   180   181   182   183   184