Page 12 - kpi20686
P. 12

ห น้ า  | 2


                       ร่วมได้ แต่อย่างไรก็ตามการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบของผู้ด ารงต าแหน่งทาง
                       การเมืองและข้าราชการระดับสูงยังคงต้องพัฒนาในหลายมิติ
                                ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา การทุจริตและการประพฤติมิชอบมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น
                       การทุจริตของนักการเมืองได้ขยายไปเป็นการทุจริตในเชิงนโยบายและสร้างเครือข่ายการทุจริต

                       ระหว่างข้าราชการการเมือง ข้าราชการประจ าระดับสูง และกลุ่มทุนขนาดใหญ่ มีการน านโยบาย
                       สาธารณะมาใช้หาผลประโยชน์อย่างกว้างขวาง เป็นที่พบเห็นโดยทั่วไป (ส านักงานคณะกรรมการ
                       ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, 2556) การด าเนินคดีและการตรวจสอบนักการเมืองและ
                       ข้าราชการระดับสูงที่ประพฤติมิชอบดังกว่าข้างต้น เป็นภารกิจหลักขององค์กรตามรัฐธรรมนูญที่มีมา

                       ตั้งแต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม
                       ความล่าช้าของกระบวนการตรวจสอบการทุจริตขององค์กรอิสระเหล่านี้ รวมถึงความกล้าหาญของ
                       บุคคลผู้ด ารงต าแหน่งในองค์กรอิสระเหล่านี้ ประกอบกับสังคมได้ตั้งค าถามว่า องค์กรเหล่านี้มีความ
                       เป็นอิสระปลอดจากการแทรกแซงทางการเมืองหรือไม่ (เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ และคณะ, 2558)

                                การทุจริตประพฤติมิชอบในระดับปฏิบัติเกิดขึ้นทั้งในราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และ
                       ส่วนท้องถิ่น ตลอดจนรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ส่วนราชการอื่น การทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าว
                       คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและส านักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นหน่วยงานหลักในการ

                       ตรวจสอบ รายงานความประพฤติมิชอบต่าง ๆ เหล่านี้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการท างานของ
                       คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและส านักงานการตรวจเงินแผ่นดินก็มีข้อจ ากัดในแง่ปริมาณงานที่มี
                       จ านวนมากไม่สัมพันธ์กับงบประมาณที่ได้รับจัดสรรและก าลังคนที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับภาระงาน (เดือน
                       เด่น นิคมบริรักษ์ และคณะ, 2558)
                                การทุจริตที่มีระดับความเสียหายสูง คือ การทุจริตเชิงนโยบาย การทุจริตดังกล่าวมาเป็น

                       การทุจริตที่มาพร้อมกับการน านโยบายพรรคการเมืองและนโยบายรัฐบาลแสวงหาผลประโยชน์ผ่าน
                       โครงการเมกะโปรเจคที่จ าเป็นต้องใช้งบประมาณจ านวนมหาศาลผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น
                       พระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือด าเนินในกิจการของรัฐ พุทธศักราช 2535 และ

                       น าจุดบกพร่องของกฎหมายของการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ ซึ่งเป็นกฎหมายของฝ่ายบริหารเข้ามา
                       แสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ค านึงถึงหลักธรรมาภิบาล เช่น กรณีการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งของ
                       กระทรวงสาธารณสุข งบประมารแผ่นดินมูลค่า 86,685 ล้านบาท เมื่อปี พ.ศ. 2552 โครงการรับ
                       จ าน าข้าว งบประมาณมากกว่า 3 แสนล้านบาท ในปี พ.ศ. 2554 - 2555 รวมถึงโครงการก่อสร้าง

                       สนามบินสุวรรณภูมิ ในระหว่าปี พ.ศ. 2545 - 2547 (ส านักงานคณะกรรมการป้องกันและ
                       ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, 2556)
                                เพื่อที่จะลดปัญหาดังกล่าวข้างต้น จึงสมควรมีการศึกษาแนวคิดทฤษฎีและบริบทของการ
                       ออกแบบและก าหนดบทบาทขององค์กรอิสระของต่างประเทศ (Eme, Samuel & Chidubem,

                       2017) และของประเทศไทยในอดีตจนถึงปัจจุบัน (เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ และคณะ, 2558; ปัทมา
                       สูบประเทือง และคณะ, 2557; ถวิลวดี บุรีกุล และคณะ, 2559) เพื่อน ามาใช้ในการวิเคราะห์หา
                       เหตุผลและความเหมาะสมในการวางหลักการใหม่เกี่ยวกับการเข้าสู่อ านาจ การปฏิบัติหน้าที่ และการ
                       ตรวจสอบการท างานขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

                       ประกอบกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17