Page 161 - kpi20756
P. 161
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 21 1 1
ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย
จะเห็นได้ว่าในสังคมประชาธิปไตยการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบใหม่ หรือ
วัฒนธรรมแบบพลเมือง (civic culture) จึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก การสร้าง
วัฒนธรรมทางการเมืองแบบใหม่ในสังคมประชาธิปไตย ยังหมายถึงการกำหนดค่านิยมใหม่
ทางการเมือง เพื่อนำไปสู่ความเป็นสังคมประชาธิปไตยที่มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน
โดยต้องมีลักษณะองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้ 69
1) วัฒนธรรมทางการเมืองแบบใหม่ ต้องทำให้เกิดการปฏิบัติการทางการเมืองร่วมกันด้วย
ความสมานฉันท์ และมีการส่งเสริมให้ภาคประชาสังคมได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
และกำหนดความเป็นไปเรื่องราวทางสังคมและการเมืองให้มากขึ้น
2) วัฒนธรรมทางการเมืองแบบใหม่ จะต้องทำให้เกิดค่านิยมใหม่ของผู้คนที่มุ่งไปสู่การ
รวมตัวกันเป็นกลุ่ม สมาคม หรือองค์กร แล้วจะต้องทำให้เกิดแนวคิดหรือแนวทางปฏิบัติ ที่ทำให้
ค่านิยมพื้นฐานเรื่องการสร้างความเสมอภาคและเท่าเทียมได้ถูกนำไปปฏิบัติจริง หรือเกิดแผนงาน
โครงการปฏิบัติการทางการเมืองที่สอดคล้องกับค่านิยมพื้นฐานเหล่านั้น
3) วัฒนธรรมทางการเมืองแบบใหม่ ต้องส่งเสริมให้เกิดการอภิปรายปัญหาสาธารณะ
ในเรื่องการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างต่อเนื่อง และต้องมีการกระตุ้นให้เกิด
การถกเถียงกันเพื่อนำไปสู่ความเข้าใจร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ในวัฒนธรรมทางการเมือง
แบบใหม่นี้ยังต้องการพื้นที่สาธารณะ เพื่อการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถกเถียงกัน
อันจะนำไปสู่ความเข้าใจร่วมกันในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่เกิดขึ้น
ในท้ายที่สุดแล้ว การพัฒนาวัฒนธรรมทางการเมืองแบบใหม่หรือแบบพลเมืองจะเกิดขึ้นได้
ก็ต่อเมื่อเกิดการทำหน้าที่ของ “การเป็นพลเมือง” (Citizenship) ในกลุ่มคนส่วนใหญ่ของ
ประเทศอย่างแท้จริง จนกลายเป็นค่านิยมของประชาชนหมู่มากในสังคม คุณสมบัติของพลเมือง
ที่เอื้อต่อหลักการประชาธิปไตยเพื่อสร้างความเท่าเทียมและแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม
เช่น การคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน การรักความยุติธรรม มีความเห็นอกเห็นใจต่อ
เพื่อนมนุษย์และผู้ทุกข์ยาก การรู้จักใช้สิทธิของตนเองและรู้จักเคารพสิทธิผู้อื่น มีคุณธรรมและ
จริยธรรม มีความสำนึกในการมีส่วนร่วมทางการเมือง เช่น มีความสนใจและกระตือรือร้นที่จะ
เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง การกล้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัฐบาล
ที่สร้างปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมขึ้นให้ความสนใจติดตามควบคุมตรวจสอบการทำงานของ
รัฐบาลอย่างจริงจัง มีจิตสำนึกในการรวมกลุ่มเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสังคมและชุมชน หรือ
อาจมีการรวมตัวกันคัดค้านโครงการที่ไม่มีเหตุผลพอ หรืออาจสร้างปัญหาส่งผลกระทบในทาง
เสียหายต่อชุมชนท้องถิ่นในด้านต่างๆ เป็นต้น 70
69 ประมวล รุจนเสรี. (2551). ปฏิวัติวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ : พรรคประชามติ.
70 พรอัมรินทร์ พรหมเกิด. (2557). “วัฒนธรรมทางการเมืองของประชาชนกับการพัฒนาประชาธิปไตย” เอกสารประกอบการสัมมนากลุ่มย่อยที่ 2
วารสารวิชาการโรงเรียนนายเรือ (ฉบับปฐมฤกษ์) พ.ศ. 2557. หน้า 83 - 91.