Page 157 - kpi20756
P. 157

การประชุมวิชาการ
                                                                                        สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 21   1 7
                                                                                        ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย


                      ผู้นำมักนิยมรวบอำนาจไว้กับตัวเอง การทำงานจึงมีลักษณะสั่งการจากเบื้องบนลงมามากกว่าจะมี
                      การริเริ่มจากเบื้องล่าง ส่วนผู้น้อยจะต้องเกรงกลัว เคารพเชื่อฟังและอ่อนน้อมยอมจำนนต่อผู้มี

                      อำนาจ มีหน้าที่รับคำสั่งและปฏิบัติตามคำสั่งเท่านั้น ไม่นิยมการโต้แย้ง ไม่ว่าคำสั่งนั้นจะ
                      ชอบธรรมหรือไม่  ดังจะเห็นได้จากวัฒนธรรมทางการเมืองแบบอำนาจนิยม ที่มีในระบอบ
                                       59
                      การปกครองในทุกระดับที่มักรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง โดยมีผู้บังคับบัญชาในระดับสูง เช่น

                      ผู้อำนวยการระดับกรม กอง สำนัก เป็นผู้มีอำนาจสั่งการจากเบื้องบนลงสู่เบื้องล่าง ยิ่งส่งเสริม
                      การเกิดโครงสร้างการบริหารจัดการภาครัฐ ที่มีผู้บังคับบัญชาสั่งการไว้ที่ส่วนกลางและหัวเมือง

                      ใหญ่ๆ ในภูมิภาคมากขึ้น จากปรากฏการณ์เช่นนี้ ยิ่งทำให้การบริการโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ใน
                      การดำเนินการของรัฐ เช่น ด้านสาธารณสุขและด้านการศึกษาไม่สามารถกระจายอำนาจ
                      การบริหารลงสู่ชุมชนท้องถิ่นได้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียมจนทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำของ

                      สังคมขึ้น

                            3.2  วัฒนธรรมทางการเมืองที่ผู้คนเฉื่อยชา ไม่กระตือรือร้นหรือสนใจต่อกิจกรรม

                      ทางการเมือง

                                กล่าวคือ คนไทยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยสนใจกิจกรรมทางการเมือง หรือเรื่องราว

                      ที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์สาธารณะ โดยทั่วไปจะพอใจในสถานภาพเดิมที่เป็นอยู่ของตน และ
                      ยอมรับสภาพที่เสียเปรียบไม่เป็นธรรมของตนเอง โดยถือว่าเป็นเรื่องของบุญกรรม โชคชะตาหรือ
                      วาสนา ดังเช่น ภายใต้ระบบกรรมสิทธิ์ที่ดินที่มีความสำคัญสูงต่อปัจจัยด้านการประกอบอาชีพ

                      เกษตรกรรม อันเป็นอาชีพหลักของผู้คนในสังคมไทยและเป็นพื้นฐานในการสร้างความมั่นคง
                      ในการดำรงชีวิตนั้น เมื่อประชาชนพบว่า มีการบุกรุกที่สาธารณะบางแห่ง แต่ประชาชนในท้องถิ่น

                      ก็มิได้เกิดความกระตือรือร้นเพื่อเรียกร้องที่ดินอันเป็นพื้นที่สาธารณะของชุมชนท้องถิ่นตนกลับคืนมา
                      หรือพยายามเข้าไปมีอำนาจในการตรวจสอบการใช้ที่ดินของรัฐใดๆ ทำให้ประชาชนไม่ได้ใช้สิทธิ
                      อันชอบธรรมในการอนุรักษ์ทรัพยากรของส่วนรวม และบางครั้งเป็นการเปิดโอกาสให้แก่กลุ่ม

                      นายทุน ข้าราชการระดับสูง และนักการเมืองบางรายเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ครอบครองที่ดิน
                      สาธารณะโดยมิชอบ และสร้างความร่ำรวยให้กับกลุ่มตนอันเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ

                      ของสังคมไทยด้านการถือครองที่ดิน  60

                            3.3  วัฒนธรรมแบบเจ้าขุนมูลนาย และการจัดลำดับฐานะสูงต่ำในความสัมพันธ์

                      ระหว่างบุคคล

                                วัฒนธรรมทางการเมืองของสังคมไทยมีการจัดลำดับฐานะความสัมพันธ์สูงต่ำระหว่าง

                      บุคคลและยอมรับความไม่เท่าเทียมกันจึงมักให้ความสำคัญกับเจ้านายหรือผู้มีอำนาจมากกว่า
                      นับเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนผู้มีรายได้น้อยและคนร่ำรวยมีทรัพย์สิน
                      เช่น ผู้มีอำนาจสามารถเข้าถึงการให้บริการของรัฐมากกว่าผู้มีรายได้น้อย  และระบบเจ้าขุนมูลนาย
                                                                                        61

                         59   ทินพันธุ์  นาคะตะ. (2543). ประชาธิปไตย. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สหายบล็อกและการพิมพ์.

                         60   พรอัมรินทร์  พรหมเกิด. (2556). สังคมวิทยาการเมือง. พิมพ์ครั้งที่ 2. ขอนแก่น: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัย  เอกสารประกอบการสัมมนากลุ่มย่อยที่ 2
                      ขอนแก่น.
                         61   สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2557). อ้างแล้ว.
   152   153   154   155   156   157   158   159   160   161   162