Page 159 - 22373_Fulltext
P. 159

3.8.3 ปัญหาและการแก้ปัญหาที่สะท้อนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

                          1) ปัญหาเด็กพิเศษซึ่งนอกจากปัญหาความบกพร่องแล้ว ยังมีปัญหาสภาพครอบครัว พ่อแม่แยก
                ทางกัน “พ่อไปทาง แม่ไปทาง” ท้าให้เด็กต้องอยู่กับผู้สูงอายุ และแม้จะเป็นเด็กที่มีใบรับรองซึ่งจะได้รับ

                สวัสดิการ แต่ใบรับรองดังกล่าวอยู่กับมารดา และมารดาได้น้าเงินสวัสดิการไปใช้ เด็กไม่ได้รับ เป็นเรื่องซับซ้อน
                ซึ่งเทศบาลเห็นว่าเกินกว่าที่โรงเรียนของเทศบาลจะเข้าไปจัดการได้  นอกจากนี้การที่ผู้ปกครองที่ดูแลเด็กเป็น

                ผู้สูงอายุท้าให้ขาดการดูแลที่ถูกต้องท้าให้เกิดปัญหาที่โรงเรียน เนื่องจากเด็กต้องรับประทานยา แต่ด้วย
                ผู้ปกครองเป็นผู้สูงอายุจึงท้าให้ขาดการรักษา อีกทั้งยังไม่ยอมรับว่าบุตรหลานป่วย โรงเรียนไม่สามารถไป

                บีบบังคับให้ผู้ปกครองน้าเด็กไปรักษาได้ ยังไม่สามารถหาทางออกได้ เทศบาลได้ปรึกษากับแพทย์ โดยแพทย์
                ระบุว่า ถ้าเด็กไม่ได้ยาอย่างต่อเนื่องพฤติกรรมเด็กจะยิ่งแย่ลง

                          ในอ้าเภอเมือง จังหวัดนราธิวาสจะมีโรงเรียนการศึกษาพิเศษ ส้าหรับผู้พิการซ้้าซ้อนโรงเรียนจะรับ

                ไปในส่วนที่พบตามโรงเรียนต่าง ๆ จะมีที่โรงเรียนเทศบาลบ้าง โดยมักจะเป็นปัญหาเรื่องของอารมณ์สองขั้ว
                ซึ่งจะพบทุกปี “ปีละคนสองคน” ซึ่งครูก็ยังสามารถดูแลได้  นอกจากนี้ยังมีเด็กสมาธิสั้นในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก

                ซึ่งได้มีการทดสอบ DSPM เป็นการทดสอบของกรมอนามัยเพื่อวัดระดับ IQ  หากต่้ามากเทศบาลจะแนะน้า
                ผู้ปกครองให้ไปตรวจ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีใบรับรองซึ่งปัญหาส่วนใหญ่คือ ผู้ปกครองไม่ยอมรับ


                          2) เด็กในเขตเทศบาลที่มีอายุในช่วง 2-4 ปี มีจ้านวน 9,351 คน ส่วนที่อยู่ในวัยเรียนการศึกษาขั้น
                พื้นฐาน (6-15ปี) มีจ้านวน 40,000 กว่าคน 16-18 ปี 13,000 กว่าคน นอกจากจะศึกษาอยู่ในโรงเรียนเทศบาล

                ซึ่งมีทั้งหมด 6 โรงเรียน เป็นโรงเรียนขยายโอกาส เรียนจนถึงมัธยมต้น มี 3 โรงเรียน เทศบาล 1–3 ส่วน
                โรงเรียนเทศบาล โรงเรียนเทศบาล 3 จะมีถึงมัธยมปลาย ส่วนเทศบาล 4-6 เป็นระดับประถมศึกษา ใน 6

                โรงเรียนทั้งหมด มีระดับประถมวัย อนุบาล 1-3 รวมถึงมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจ้านวน 6 ศูนย์

                          นอกจากนี้ยังมีครูสอนเด็กด้อยโอกาสอีก 2 คน โดยเทศบาลมีแผนในการจัดการเรียนการสอน
                ส้าหรับเด็กด้อยโอกาส ซึ่งเด็กด้อยโอกาสในปี 2564 มีทั้งหมด 69 คน จากการส้ารวจข้อมูลจากเครือข่าย อาทิ

                ครู ผู้น้าชุมชน หรือสมาชิกสภาฯ เมื่อเทศบาลได้รับข้อมูล ครูสอนเด็กด้อยโอกาสจะลงไปส้ารวจ สอบถาม
                สัมภาษณ์ เก็บข้อมูลเชิงลึก อาทิ เด็กด้อยโอกาสออกจากชั้นเรียนเมื่อไหร่ สภาพเป็นอย่างไร โดยเทศบาล

                จะแบ่งลักษณะเด็กด้อยโอกาสเป็นเด็กถูกปล่อยปละละเลย เด็กขาดโอกาสยากจน ซึ่งการขาดโอกาสมีทั้งเด็ก
                ไร้สัญชาติเนื่องจากจังหวัดนราธิวาสติดชายแดนไทย-มาเลเซีย พ่อแม่ผู้ปกครองไปท้างานในมาเลเซีย หรือ               การวิจัยขับเคลื่อนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นกลไกลดความเหลื่อมล ้าทางด้านการศึกษา

                บางคนอาจจะไปมีครอบครัวอยู่ที่มาเลเซีย สามีเป็นคนมาเลเซีย เมื่อเกิดปัญหาต้องกลับประเทศจะมีบุตรมา
                ด้วยโดยที่ไม่ได้แจ้งเกิด ท้าให้เด็กไม่มีสัญชาติ


                          ครูสอนเด็กด้อยโอกาสได้ร่วมกับส้านักปลัด (ทางทะเบียนราษฎร์) บันทึกข้อมูลไว้พบว่าเด็กไม่มี
                เลขบัตรประชาชน จึงต้องการขอขึ้นทะเบียน เทศบาลได้ช่วยผลักดันให้เด็กได้สัญชาติ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
                รัฐมีโครงการพิสูจน์สัญชาติฟรี ด้วยเพราะเวลาตรวจหา DNA ต้องมีค่าใช้จ่ายจ้านวนมาก อาทิ เด็ก 10,000

                บาท ผู้ใหญ่ 10,000 บาท ประมาณ 20,000 บาท  เทศบาลสามารถด้าเนินการได้ประมาณ 22 คน หลังจาก
                นั้นกระทรวงยุติธรรมจะด้าเนินการต่อ ท้าให้ในส่วนของเทศบาล ภาระในส่วนนี้ลดลง








                                                               วิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า   135
   154   155   156   157   158   159   160   161   162   163   164