Page 81 - b29259_Fulltext
P. 81

แต่ระบอบการเมืองแทบทุกระบอบในโลกนี้ต่างอ้างอิงหลักการประชาธิปไตย

        ทั้งสิ้น ความแตกต่างอยู่ที่การวางรูปแบบความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่าง
        สถาบันต่าง ๆ ในรายละเอียด เช่น ประมุขและที่มาของประมุข ผู้ที่ทำาหน้าที่
        ในฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติที่เป็นตัวแทนประชาชนหรือรัฐสภา และ

        ผู้ใช้อำานาจยุติธรรม ตลอดจนกลไกการตรวจสอบต่าง ๆ การปกครองระบอบ
        ประชาธิปไตยในโลกนี้จำาแนกออกเป็นสามระบบ ได้แก่ ระบบรัฐสภาแบบ

        อังกฤษ (Parliamentary System) ระบบประธานาธิบดี (Presidential
        System) และระบบกึ่งประธานาธิบดี (Semi-Presidential System)


               ระบบรัฐสภาแบบอังกฤษมีกษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ มีฝ่ายนิติบัญญัติ
        มาจากการเลือกตั้ง และฝ่ายสภาขุนนางที่มาจากการสืบตระกูลและ
        การแต่งตั้ง เสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎรหรือสภาสามัญจะเข้าไป

        จัดตั้งรัฐบาลทำาหน้าบริหารหรือรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ส่วนฝ่ายอำานาจ
        ยุติธรรมมีความเป็นอิสระ และมีอำานาจบางส่วนที่เหลื่อมซ้อนกัน เช่น เป็น

        ขุนนางสืบตระกูลมีตำาแหน่งในสภาขุนนางแต่ทำาหน้าที่ในฝ่ายอำานาจยุติธรรม
        เป็นต้น นอกจากนี้ ฝ่ายสภาผู้แทนราษฎรยังสามารถควบคุมตรวจสอบ
        การทำางานของรัฐบาลได้ผ่านการอภิปรายแบบต่างและสามารถมีมติแสดง

        ความไม่ไว้วางใจในรัฐบาลได้ ขณะที่รัฐบาลทรงไว้ซึ่งอำานาจในการยุบ
        สภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจใหม่


               ส่วนระบบประธานาธิบดี หมายถึง ระบบการเมืองที่การใช้อำานาจ
        อิงกับรัฐธรรมนูญที่เป็นลายลักษณ์อักษร โดยกำาหนดอำานาจหน้าที่และ

        ที่มาของฝ่ายต่าง ๆ ที่แยกออกจากกันเพื่อผลในทางการตรวจสอบและ
        ป้องกันเผด็จการ ซึ่งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติต่างมาจากการเลือกตั้ง




                                 หลักสูตรเตรียมความพร้อมส�าหรับการเมืองระดับชาติ  81 81
   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86