Page 22 - kpiebook62001
P. 22

  อินเดีย มีประสบการณ์การใช้นโยบายสวัสดิการและโครงการพัฒนาแบบเจาะจงไปที่คนจนมายาวนาน

               ที่สุดในกลุ่มประเทศก าลังพัฒนา ข้อมูลจากปีค.ศ. 2001 และ 2002 พบว่าอินเดียมีสัดส่วนของงบประมาณที่ประเทศ
               น ามาใช้กับนโยบายและสวัสดิการในลักษณะนี้สูงถึงกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณภาครัฐ และนับเป็นถึง 3

               เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตมวลรวมประชาชาติ (Srivastava, 2005) ในช่วงทศวรรษ 1990 อินเดียได้เพิ่มสัดส่วนรายจ่ายที่

               ไปสู่สวัสดิการแบบเจาะจงที่คนจนมากขึ้นถึงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ (Shariff et al., 2002) ด้วยความที่อินเดียเป็นประเทศ
               ที่เน้นนโยบายสวัสดิการในลักษณะแบบเจาะจงที่คนจนมาก จึงท าให้เป็นกรณีศึกษาที่เหมาะสม

                         อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่กลุ่มอาเซียนเช่นเดียวกับไทย และมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ไม่ต่างกับไทยมากนัก

               ทั้งในด้านของระดับรายได้ต่อหัวและความเหลื่อมล้ า จึงเหมาะจะเป็นคู่เปรียบเทียบกับไทย อินโดนีเซียมีการน า
               สวัสดิการแบบเจาะจงไปที่คนจนมาใช้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่นโยบายที่อุดหนุนค่าใช้ข่ายด้านอาหาร สนับสนุนการ

               จ้างงาน และสนับสนุนการเข้าถึงบริหารด้านการศึกษาและสาธารณสุขเฉพาะกับคนจน การประมาณการช่วงปี 1998-

               1999 พบว่าสัดส่วนของนโยบายสวัสดิการแบบเจาะจงที่คนจนของอินโดนีเซียอยู่ที่ประมาณ 9 เปอร์เซ็นต์ของรายจ่าย
               รัฐบาลกลาง (Perdana and Maxwell, 2005)

                         จีน หันมาเน้นใช้นโยบายสวัสดิการแบบเจาะจงที่คนจนมากขึ้นตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 โดยเน้นการ

               แก้ปัญหาความยากจนผ่านโครงการเช่น โครงการอุดหนุนการกู้เงิน โครงการสนับสนุนการจ้างงาน และการกระจาย
               งบประมาณไปให้กับพื้นที่ ๆ ยากจนโดยตรง รูปแบบของสวัสดิการแบบเจาะจงที่คนจนของจีนมีความหลากหลายและ

               สร้างความน่าสนใจต่อการศึกษา สัดส่วนของงบประมาณรัฐบาลกลางของประเทศจีนที่ถูกใช้ไปกับสวัสดิการเพื่อ

               แก้ปัญหาความยากจนนั้นนับเป็นประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณทั้งหมด  (Wang, 2005)

                       1.4.4.2 กรณีศึกษาจากต่างประเทศเพื่อศึกษาการออกแบบนโยบายสวัสดิการในภาพรวม

                       คณะวิจัยแบ่งส่วนกรณีศึกษาออกเป็นการศึกษานโยบายสวัสดิการในภาพรวม เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนกว่าของ

               ความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบของนโยสวัสดิการที่ประเทศต่าง ๆ เน้นน ามาใช้กับความสามารถในการลดความเหลื่อมล้ า

               ด้วยเป้าหมายเช่นนี้ คณะวิจัยจึงเลือกกรณีศึกษาหลักจากประเทศพัฒนาแล้วที่เป็นตัวอย่างของระบบสวัสดิการรูปแบบ
               แตกต่างกัน เพื่อให้การเปรียบเทียบจะได้เกิดความใกล้เคียงกัน ทั้งผลการเปรียบเทียบจะไม่ได้เกิดความวุ่นวายจาก

               ปัจจัยอื่น ๆ ที่สร้างปัญหาให้ระบบสวัสดิการเช่นที่เกิดในประเทศก าลังพัฒนา กรณีศึกษาที่คณะวิจัยตั้งเป้าหมายเลือก

               มานั้นประกอบไปด้วยกรณีหลักคือ สวีเดน ซึ่งเป็นตัวอย่างของรัฐสวัสดิการแบบสังคมนิยมประชาธิปไตย ที่เน้นให้
               สวัสดิการแบบถ้วนหน้าและยังมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการสร้างความเท่าเทียมผ่านระบบสวัสดิการ และ สหราช

               อาณาจักร ซึ่งเป็นตัวอย่างของรัฐสวัสดิการแบบเสรีนิยม เน้นการให้สวัสดิการเฉพาะเจาะจงไปที่กลุ่มคนยากจนเพื่อ

               แก้ปัญหาความแปลกแยกในสังคม (social exclusion)
                       การเปรียบเทียบทั้งสองประเทศนี้เพื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียและแนวทางการผสมผสานรูปแบบ

               สวัสดิการแบบถ้วนหน้าและแบบเจาะจงที่คนจน ซึ่งเป็นโจทย์ที่ส าคัญของการออกแบบระบบสวัสดิการทั่วโลกรวมทั้ง

               ของประเทศไทย นอกจากนี้ คณะวิจัยจะพยายามค้นคว้าถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสามารถของระบบสวัสดิการ


                                                               13
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27