Page 16 - kpiebook65020
P. 16
ii
พ.ศ. 2562 การวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐศาสตร์และทางสังคม การจัดท ารายงานผลการวิเคราะห์ และ
การตรวจสอบเนื้อหาในการตรากฎหมาย (2) น าองค์ความรู้ที่ได้มาจัดท าเป็นกรณีศึกษาและสื่อการเรียนการ
สอนโดยทดลองใช้ในหลักสูตรวุฒิบัตรการวิเคราะห์การตรากฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
ของส านักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า (3) น าองค์ความรู้ที่ได้และผลการศึกษาจากการ
ทดลองใช้กรณีศึกษาและสื่อการเรียนการสอนดังกล่าวข้างต้นมาพัฒนาเป็นคู่มือส าหรับการตรวจสอบความ
จ าเป็นในการตรากฎหมาย
การด าเนินการดังกล่าวได้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการศึกษาวิจัย เรื่อง “องค์ความรู้และเครื่องมือ
ส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย” ทุกประการ ดังที่คณะผู้วิจัยจะรายงานสรุปผล
การศึกษาดังต่อไปนี้
1. การส ารวจองค์ความรู้และทบทวนบทเรียนการด าเนินการตรวจสอบความจ าเป็นและวิเคราะห์
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย
คณะผู้วิจัยได้ด าเนินการส ารวจองค์ความรู้และทบทวนบทเรียนการด าเนินการตรวจสอบความจ าเป็น
และวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายในประเด็นต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1.1 ความรู้พื้นฐานว่าด้วยการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมายและการวิเคราะห์
ผลกระทบร่างกฎหมาย
การวิเคราะห์ผลกระทบในการตรากฎหมายหรือมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปหลายประเทศ เช่น
Regulatory Impact Assessment (RIA) ในกลุ่มประเทศอเมริกาเหนือ หรือ Impact Assessment (IA)
ในกลุ่มสหภาพยุโรป RIA เป็นหนึ่งในวิเคราะห์การใช้กฎเพื่อแก้ปัญหาภาวะตลาดล้มเหลวและภาวะกฎ
ล้มเหลว RIA จึงเป็นระบบในการตรวจสอบร่างกฎหรือกฎหมายที่จะส่งผลถึงผู้คนบางกลุ่มหรือมีผลกระทบต่อ
มิติบางมิติของสังคมโดยจะเป็นมิติใดบ้างขึ้นอยู่กับการให้ความหมายในแต่ละประเทศแต่โดยทั่วมักจะรวมถึง
1
มิติทางเศรษฐกิจ สังคม เพศ สุขภาพ สิ่งแวดล้อมและการกระจายรายได้ของรัฐ
องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Co-
operation and Development: OECD) ได้ให้ความหมายของ RIA ว่าเป็นกระบวนที่ใช้ระบุและประเมินผล
กระทบจากการออกกฎอย่างเป็นระบบ โดยต้องมีการใช้วิธีการในการวิเคราะห์ เช่น การวิเคราะห์ต้นทุน
อย่างต่อเนื่อง โดย RIA นั้นคือกระบวนการเปรียบเทียบระหว่างเป้าหมายที่รัฐต้องการแทรกแซงกับนโยบาย
ทางเลือกต่าง ๆ ที่ใช้ในการบรรลุเป้าหมายนั้น นโยบายทางเลือกทั้งหมดนั้นต้องถูกวิเคราะห์ประเมินด้วย
วิธีการเดียวกันและผู้ออกกฎต้องทราบถึงผลการวิเคราะห์ทั้งหมดก่อนจะตัดสินอย่างเป็นระบบเพื่อเลือกเฟ้น
2
หานโยบายที่มีดีที่สุด กล่าวโดยย่อ RIA คือ กระบวนการวิเคราะห์ถึงประสิทธิภาพและความคุ้มทุนในการ
ออกกฎ RIA เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจอย่างเป็นระบบถึงประสิทธิภาพและความจ าเป็นในการออกกฎ
ดังนั้น ผลของการประเมิน RIA อาจไม่ได้น าไปสู่ข้อสรุปของการออกหรือไม่ออกกฎใดกฎหนึ่งโดยตรง แต่เพียง
1
Claire Dunlop and Claudio Radaelli, Handbook of Regulatory Impact Assessment, (Cheltenham: Edward
Elgar Publishing, 2016 ), p.14.
2
“Introductory Handbook for Undertaking Regulatory Impact Analysis (RIA),” OECD, (2008) accessed 8
September 2020, from https://www.oecd.org/gov/regulatory-policy/4478 94 72.pdf, p.3.