Page 21 - kpiebook65020
P. 21
vii
ประชาชนและด าเนินการให้ประชาชนเข้าถึงตัวบทกฎหมายต่าง ๆ ได้โดยสะดวกและสามารถเข้าใจกฎหมาย
ได้ง่ายเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง
ก่อนการตรากฎหมายทุกฉบับ รัฐพึงจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ผลกระทบ
ที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายอย่างรอบด้านและเป็นระบบ รวมทั้งเปิดเผยผลการรับฟังความคิดเห็นและการ
วิเคราะห์นั้นต่อประชาชน และน ามาประกอบการพิจารณาในกระบวนการตรากฎหมายทุกขั้นตอน
เมื่อกฎหมายมีผลใช้บังคับแล้ว รัฐพึงจัดให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายทุกรอบระยะเวลาที่ก าหนด
โดย รับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องประกอบด้วย เพื่อพัฒนากฎหมายทุกฉบับให้สอดคล้องและเหมาะสม
กับบริบทต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป
รัฐพึงใช้ระบบอนุญาตและระบบคณะกรรมการในกฎหมายเฉพาะกรณีที่จ าเป็น พึงก าหนดหลักเกณฑ์
การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ของรัฐและระยะเวลาในการด าเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย
ให้ชัดเจน และพึงก าหนดโทษอาญาเฉพาะความผิดร้ายแรง”
พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดท าร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ.
2562 ถูกตราขึ้นเพื่อก าหนดหลักเกณฑ์การจัดท าร่างกฎหมาย การตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย
เพื่อให้การตรากฎหมายเป็นไปโดยละเอียดรอบคอบ ไม่สร้างภาระแก่ประชาชนเกินความจ าเป็น ตลอดจนการ
ก าหนดหลักเกณฑ์การประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายภายหลังเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้วเพื่อพัฒนา
กฎหมายให้ทันสมัยและสอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการเข้าถึงกฎหมายของประชาชน เพื่อให้
11
สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่ก าหนดไว้ในมาตรา 77 และมาตรา 258 ค. ด้านกฎหมาย (1) และ (3) ของ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย พุทธศักราช 2560 ที่มุ่งหมายในการปฏิรูปการออกกฎหมายในประเทศไทย
ให้เหมาะกับความจ าเป็นในการตรากฎหมายในเรื่องนั้น สอดคล้องกับระบบสากล และปรับปรุงกฎหมายที่
บังคับใช้ไปแล้วให้ทันสมัยและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน
พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดท าร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ.
2562 ได้ก าหนดหลักเกณฑ์พื้นฐานในการหลักเกณฑ์การจัดท าร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของ
กฎหมาย ในมาตรา 5 ไว้ว่า ก่อนการตรากฎหมายทุกฉบับ หน่วยงานของรัฐพึงจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น
ของผู้เกี่ยวข้องและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายอย่างรอบด้านและเป็นระบบ รวมทั้งเปิดเผย
ผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์นั้นแก่ประชาชน และน าผลนั้นมาประกอบการพิจารณาใน
กระบวนการตรากฎหมายทุกขั้นตอน และใช้ระบบอนุญาตและระบบคณะกรรมการเฉพาะกรณีที่จ าเป็น และ
พึงก าหนดหลักเกณฑ์การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ของรัฐและระยะเวลาในการด าเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ
ให้ชัดเจน รวมทั้งพึงก าหนดโทษอาญาเฉพาะความผิดร้ายแรง
11
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560, มาตรา 258.
ให้ด าเนินการปฏิรูปประเทศอย่างน้อยในด้านต่าง ๆ ให้เกิดผล ดังต่อไปนี้ …
ค. ด้านกฎหมาย
(1) มีกลไกให้ด าเนินการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับต่าง ๆ ที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ให้
สอดคล้องกับหลักการตามมาตรา 77 และพัฒนาให้สอดคล้องกับหลักสากล โดยให้มีการใช้ระบบอนุญาตและระบบการ
ด าเนินการโดยคณะกรรมการเพียงเท่าที่จ าเป็นเพื่อให้การท างานเกิดความคล่องตัว โดยมีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน และไม่สร้าง
ภาระแก่ประชาชนเกินความจ าเป็น เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ ...
(3) พัฒนาระบบฐานข้อมูลกฎหมายของรัฐโดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลกฎหมายได้สะดวก และ
สามารถเข้าใจเนื้อหาสาระของกฎหมายได้ง่าย