Page 34 - kpiebook65032
P. 34

33



                       4. เมื่อเรำดูจำกกลไกส�ำนึกรับผิดชอบส�ำหรับหน่วยงำนภำครัฐ

              เรำอำจคิดว่ำ ภำคประชำชนสำมำรถเข้ำไปตรวจสอบและบังคับให้หน่วยงำน
              และเจ้ำหน้ำที่รัฐมีส�ำนึกรับผิดชอบได้ แต่ในข้อเท็จจริง เรำต้องยอมรับว่ำ
              กลไกส�ำนึกรับผิดชอบมีจุดอ่อน ยกตัวอย่ำงเช่น กำรเปิดข้อมูลข่ำวสำร

              และกำรเปิดเวทีสนทนำอภิปรำยถกเถียง ภำครัฐสำมำรถสกัดกั้น
              กำรเข้ำถึงข้อมูลได้ตั้งแต่ขั้นต้น เช่น อ้ำงเหตุผลควำมมั่นคงของประเทศ

              กระทบควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ ท�ำให้สำมำรถเลี่ยงกำรให้ข้อมูล
              แก่ศำล โดยทั่วไปหน่วยงำนรัฐมักจะเลือกเปิดเผยข้อมูลบำงประเภท
              หรือรัฐมนตรีและเจ้ำหน้ำที่รัฐอำจเลี่ยงจะไปตอบค�ำถำมต่อข้อซักถำม

              ในสภำนิติบัญญัติ หรือเลี่ยงจะให้ข่ำวแก่สื่อ แม้จะมีกฎหมำยด้ำน
              ข้อมูลข่ำวสำร แต่ข้อมูลที่ได้มักเป็นกำรตัดสินใจหรือด�ำเนินกำรไปแล้ว

              และเลี่ยงกำรตรวจสอบของสภำนิติบัญญัติโดยใช้กำรประชำสัมพันธ์
              กำรมีควำมสัมพันธ์ที่ดีกับสื่อมวลชนเพื่อป้องกันมิให้มีกำรขุดคุ้ยกรณี
              ที่อำจกระทบเสถียรภำพรัฐบำล กำรใช้วิธีกำรแก้ไขให้ถูกต้อง (rectification)

              อำจท�ำไม่ได้โดยง่ำยเมื่อตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่ว่ำ ในรัฐสภำมีสมำชิก
              ที่มำจำกพรรครัฐบำล และมีกำรส่งคนหรือพรรคพวกไปอยู่ในต�ำแหน่ง

              ผู้พิพำกษำ ขณะเดียวกัน กำรมีกำรสนทนำพูดคุยทำงนโยบำย (policy
              dialogue) ก็มักเต็มไปด้วยกลุ่มนักธุรกิจที่เป็นพวกเดียวกับพรรครัฐบำล
              สื่อเองก็อำจถูกซื้อท�ำให้สูญเสียศักยภำพในกำรตรวจสอบและให้ข่ำว

              แก่สำธำรณะ อันเป็นช่องทำงส�ำคัญในกำรตรวจสอบภำครัฐ
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39