Page 257 - kpi15476
P. 257
25 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15
เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะเห็นได้ว่าทั้งฝ่ายพันธมิตรฯ และ นปช. แม้จะขัดแย้งกันทางการเมือง
แต่ต่างก็เรียกร้อง “ประชาธิปไตย” หากมีความเข้าใจและข้อเรียกร้องในเรื่องประชาธิปไตยและ
2
ราชาธิปไตยที่ต่างกัน
ความขัดแย้งกันทางการเมืองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นความขัดแย้งที่ยืดเยื้อ (protracted)
ทำให้เกิดความรุนแรงเป็นครั้งคราว (พ.ศ. 2549 2551-3) และยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายได้
โดยง่าย บทความนี้ไม่สามารถศึกษาความขัดแย้งที่ซับซ้อนนี้ได้อย่างรอบด้าน หากประสงค์ที่จะ
ศึกษาเฉพาะความขัดแย้งทางความคิดและความเชื่อในเรื่องสถาบันพระมหากษตริย์หรือ
ราชาธิปไตย (monarchy) กับประชาธิปไตยไทย เพราะคิดว่าประเด็นนี้ยังต้องการพื้นที่การ
ถกแถลง (deliberation) สาธารณะเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะทำความเข้าใจและก้าวพ้นขีดแบ่งทาง
วัฒนธรรมการเมือง ซึ่งเป็นเสมือนสิ่งที่อบอวลอยู่ในบรรยากาศ หนักอึ้งด้วยภยาคติ แต่ก็อยู่ในใจ
และในการซุบซิบกันของหลายๆ คน
วัฒนธรรมเลขสองของการบูชา
การต่อสู้ทางความคิดความเชื่อย่อมมีผู้เรียกร้องสนับสนุน (advocators) ทั้งสองฝ่าย
โจฮาน กัลตุง ปรมาจารย์ด้านสันติศึกษาอธิบายว่า ความยากลำบากในการแปลงเปลี่ยนความขัด
3
แย้งทางสังคมที่ยืดเยื้อนั้น ส่วนหนึ่งมาจากวัฒนธรรมส่วนลึก โดยยกตัวอย่างวัฒนธรรมดังกล่าว
ในชื่อย่อว่า DMA อักษร D ย่อมาจาก Dualism ซึ่งมักนิยมแปลว่าทวิลักษณ์ แต่ในที่นี้ขอใช้คำว่า
วัฒนธรรมเลขสอง คือแนวโน้มที่จะเห็นในทุกสิ่งทุกอย่างว่า มีภาคี/ประเด็น/ทางเลือก ฯลฯ เพียง
สองภาคีเท่านั้น อักษร M ย่อมาจาก Manicheism คือแนวโน้มที่จะเห็นว่าภาคีหนึ่งเป็นฝ่ายเทพ
อีกภาคีหนึ่งเป็นฝ่ายมาร หรือเห็นว่า ประเด็น/ทางเลือกของเราถูก ของเขาผิด เป็นต้น ส่วน
อักษร A ย่อมาจาก Armageddon ซึ่งเป็นความเชื่อว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ (เห็นแต่เลขสองและถือว่า
เราถูก) ก็ต้องสู้กันให้แตกหักรู้แพ้รู้ชนะกันไปเลย จะไปคุยกับโจรหรือประนีประนอมกับฝ่ายมาร
ย่อมไม่ได้
กลุ่มผู้เรียกร้องฝ่ายหนึ่งนำเสนอความคิดความเชื่อเรื่องธรรมราชา ไปจนถึงการเรียกร้องให้
ถวายคืนพระราชอำนาจ ให้พระมหากษัตริย์ทรงมีบทบาททางการเมืองคล้ายสมัย
สมบูรณาญาสิทธิราชย์ ทั้งนี้โดยอาศัยการสื่อสารที่เข้าลักษณะการบูชาบุคลิกภาพ (personality
cult) กลุ่มผู้เรียกร้องอีกฝ่ายหนึ่งนำเสนอความคิดความเชื่อเรื่องประชาธิปไตยสมบูรณ์
ให้พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญซึ่งมีบทบัญญัติคล้ายกับธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยาม
ชั่วคราว พ.ศ. 2475 “เพื่อบ้านเมืองจะได้เจริญขึ้น” ทั้งนี้โดยอาศัยการสื่อสารที่เข้าลักษณะ
เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย United Nations Resident Coordinator Office; Bangkok, pp. 30-32
การบูชาประชาชน
McCargo D. and Tanruangporn P., 2013; Thailand Grievances Analysis: A Report for the
2
Galtung, Johan, 2004; Transcend and Transform; London, Pluto Press, pp. 154-5
3