Page 259 - kpi15476
P. 259

25      การประชุมวิชาการ
                   สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15


                       การนำเสนอเรื่องภยาคติที่กำกับชีวิตมนุษย์ข้างต้น ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่ามนุษย์เรามีความกลัว
                  และความต้องการที่คล้ายคลึงกัน ถ้าสังคมการเมืองสามารถลดความกลัวและตอบสนองความ

                  ต้องการหรือความจำเป็นพื้นฐานได้ สังคมถึงแม้จะขัดแย้งกันแต่ก็น่าจะอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข
                  อย่างไรก็ดี ความกลัวมักถูกอ้างว่าเป็นเรื่องของปัจเจก มีการอ้างด้วยซ้ำไปว่าประชาธิปไตยเสรีคือ
                  ยาขนานเอกในการผลักดันความกลัวให้เป็นเรื่องส่วนตัว (privatization of fear) เช่น การ

                  กระจายอำนาจ การจัดการตนเองผ่านองค์กรท้องถิ่น การที่รัฐคุ้มครองเสรีภาพทางศาสนา สภาพ
                  การเลื่อนชั้นทางสังคม (social mobility) และการปกครองโดยผู้แทนประชาชน ฯลฯ จะช่วยให้

                                                                     5
                  ความกลัวระดับสาธารณะลดลง อย่างไรก็ดี จอห์น คีน  อ้างเหตุผลแย้งว่า แม้ประชาธิปไตยเป็น
                  กระบวนการแบ่งปันและถ่ายโอนอำนาจโดยสันติวิธีและลดความตึงเครียดโดยแสวงความเห็นพ้อง
                  ระหว่างผู้ปกครองและผู้ถูกปกครองก็จริง แต่ในระบอบประชาธิปไตย อำนาจก็ยังไม่เป็นของ

                  พลเมืองทุกคน หากเป็นของเสียงข้างมากหรือของกระแสหลัก ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเสรี
                  ก็ยังทำสงครามพอๆ กับประเทศที่มีการปกครองในระบอบอื่น  และแม้ว่าประเทศมหาอำนาจ
                                                                             6
                  อาจมีความสูญเสียจากสงครามน้อยลง แต่พวกเขายังทำสงครามกับประเทศอื่นโดยส่งความตาย
                  ทางไกลและขายอาวุธให้ประเทศอื่นนำไปก่อความรุนแรงอยู่เหมือนเดิม ส่วนการก่อการร้าย
                  โดยฝ่ายต่อต้านรัฐและโดยฝ่ายรัฐที่เป็นประชาธิปไตยเอง ก็ยังคงเป็นปฏิกิริยาซึ่งกันและกันและ

                  หล่อเลี้ยงความสะพรึงกลัว (terror) อยู่เหมือนเดิม ส่วนประชาสังคมที่เชื่อกันว่าจะช่วยเปิดพื้นที่
                  การมีส่วนร่วมและลดความตึงเครียดได้นั้น อาจเป็นผู้สร้างความตึงเครียดเสียเอง โดยฝ่ายรัฐบาล

                  มองว่าประชาสังคมคอยบีบคั้นและทำตัวเป็นปฏิปักษ์ ส่วนฝ่ายชุมชนที่ภาคประชาสังคมมุ่งจะ
                  เข้าไปช่วยนั้น บ้างก็ปฏิเสธบทบาทความเป็นตัวกลางของภาคประชาสังคม บ้างก็กล่าวโทษฝ่าย
                  อื่นว่าเป็นตัวการทำให้สูญเสียความเป็นชุมชนของอดีตที่จินตนาการว่ามีเสถียรภาพ  อีกประการ
                                                                                               7
                  หนึ่ง เสรีภาพของสื่อมวลชนที่หวังว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญของการป้องปรามการลุแก่อำนาจโดยการ
                  รายงานข่าวแบบสืบค้นและเจาะลึกนั้น กลับไม่สามารถทำหน้าที่ได้ดีนัก ซ้ำร้ายในสถานการณ์

                  ที่วิกฤติ อาจเป็นปัจจัยกระพือความกลัว ความเกลียดและความรุนแรงเสียเอง

                       กล่าวโดยสรุปคือ ความกลัวนอกจากจะเป็นแรงขับเคลื่อนในส่วนลึกของมนุษย์แล้ว

                  ยังเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ซึ่งไม่แน่นอน (contingent) ความกลัวจึงเป็นประเด็นสาธารณะและ
                  เป็นปัญหาการเมือง ที่ควรแก่การขบคิด ไตร่ตรอง และค้นหาวิธีการทางการเมืองในอันที่จะก้าว

                  พ้นความกลัวให้ได้ไม่มากก็น้อย








        เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย      5 6 7   Keane J. in Violence and Politics: Globalization’s Paradox edited by K. Worcester, S.A.


                  Bermanzhon, and M.Ungar, 2002; Fear and Democracy; New York and London, Routledge, p. 228

                        Small, Melvin and Singer, 1976; The War-Proneness of Democratic Regime, 1816-1965;
                  Jerusalem Journal of International Relationship อ้างถึงใน Mindell A.1995; Sitting in Fire; Oragon, Lao
                  Tse Press, p. 227


                        Keane J. อ้างถึงแล้ว น. 236-8
   254   255   256   257   258   259   260   261   262   263   264