Page 363 - kpi15476
P. 363

3 2     การประชุมวิชาการ
                   สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15


                         >   พ.ร.บ.ว่าด้วยการสั่งโบราณและศิลปวัตถุออกนอกประเทศ พ.ศ.2469 ประเทศ
                  ที่เจริญรุ่งเรือง ย่อมถือว่าโบราณและศิลปวัตถุ อันเนื่องในเรื่องพงศาวดาร ฤๅเนื่องในศิลปะ

                  ศาสตร์ของประเทศเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรัฐบาลควรเอาเป็นธุระรักษาไว้เพื่อประโยชน์แห่งความรู้ และ
                  การศึกษาของประชาชนในประเทศนั้นๆ  จึงจัดตั้งพิพิธภัณฑ์สถาน ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งพิพิธภัณฑ์
                  ในปีเดียวกัน รวบรวมรักษาโบราณและศิลปวัตถุไว้สำหรับบ้านเมืองให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

                  ทรงตั้งราชบัณฑิตสภาเป็นพนักงานตรวจตรา รักษาโบราณและศิลปวัตถุ เพราะความปรากฏว่า
                  ตั้งแต่ก่อนมาจนทุกวันนี้มีผู้ชอบหาโบราณและศิลปวัตถุในพระราชอาณาเขตแล้วพาออกนอก

                  ประเทศไปเนืองๆ ทรงพระราชดำริว่า ถ้าปล่อยให้เป็นไปเช่นนั้น โบราณและศิลปวัตถุซึ่งเป็น
                  สิ่งสำคัญสมควรจะรักษาไว้ สำหรับบ้านเมืองก็จะสูญเสีย


                           การมีกฎหมายเพื่อคุ้มครองโบราณและศิลปวัตถุ ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและ
                  สมบัติของชาตินี้ เป็นการคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรมของคนในชาติ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็น

                  ชาติที่รุ่งเรือง และทำให้สังคมมีความมั่นคง นับเป็นการพัฒนาสังคมที่สำคัญยิ่ง

                         >   พ.ร.บ.ควบคุมกิจการค้าขาย อันกระทบถึงความปลอดภัย หรือผาสุกแห่ง

                  สาธารณชน พ.ศ.2471 โดยที่ทรงพระราชดำริว่า พาณิชย์และอุตสาหกรรมของประเทศได้
                  วิวัฒนาการถึงซึ่งความจำเป็นที่จะต้องกำหนดการควบคุมกิจการค้าขายทั้งหลาย อันกระทบถึง

                  ความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน เพื่อความคุ้มครองรักษาผลประโยชน์ของพสกนิกร
                  ให้เป็นที่เรียบร้อยสืบไป


                           ห้ามมิให้บุคคลผู้ใดประกอบกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภคในสยาม เว้นแต่จะ
                  ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต หรือสัมปทานแล้วหรือ เมื่อพระบรมราชานุญาตหรือ

                  สัมปทานที่ได้ไว้นั้น ถูกถอนเสียหรือสิ้นอายุลงแล้วกิจการที่ถือว่าเป็นกิจการค้าขายอันเป็น
                  สาธารณูปโภคตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.นี้ คือการรถไฟ รถราง ขุดคลอง เดินอากาศ ประปา
                  ชลประทาน โรงไฟฟ้า และบรรดากิจการอื่นอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งประชาชน

                  ซึ่งจะได้ออก พ.ร.ก. ระบุไว้ตามยุค


                           ห้ามมิให้บุคคลผู้ใดประกอบกิจการประกันภัย ธนาคาร ออมสิน เครดิตฟองซีเอ
                  หรือกิจการอื่นอันมีสภาพคล้ายคลึงกันในกรุงสยาม เว้นแต่ จะได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่ง

                  กฎหมายเฉพาะการนั้น

                           พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นธรรมราชาดังที่กล่าวถึงข้างต้นได้แสดงพระองค์ว่าทรง

                  คำนึงถึง “ประชาชนเป็นสำคัญ” ซึ่งสอดรับกับปรัชญาพื้นฐานของความเท่าเทียมตามหลักสิทธิ
        เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย           -  ความไม่เท่าเทียมกันในเรื่องสีผิว เชื้อชาติ เพศ หรือการได้รับการปฏิบัติอย่าง
                  มนุษยชนอันเริ่มต้นจากข้อถกเถียงที่มุ่งคัดค้านการปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกันอย่างไม่เท่าเทียมกัน
                  อย่างไร้เหตุผล เช่น





                                    ไม่เท่าเทียมกันทางกฎหมาย การกีดกันไม่ให้ได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม
                                    กันระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายหรือคนที่ร่ำรวย มีสิทธิพิเศษเหนือคนยากจน

                                    ในขบวนการพิพากษาความผิดทางกฎหมาย
   358   359   360   361   362   363   364   365   366   367   368