Page 425 - kpi17968

414

ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากใคร แม้ข้อเท็จจริงจะเป็นที่ทราบกันโดยเปิดเผย

ผ่านการพิจารณาคดีศาลชั้นต้นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อยหนึ่งนายมีส่วนร่วม
ในการบังคับให้ทนายสมชาย นีละไพจิตรสูญหายไป

ยหาย ากการ รมาน น น ย บ ั ร บ รั

ประสบการณ์นี้เกิดขึ้นกับครอบครัวชนชั้นกลางในจังหวัดปราจีนบุรี

ภายหลังการต่อสู้ด้วยการร้องเรียนต่อองค์กรและหน่วยงานอื่นๆ มาเป็นเวลากว่า
6 ปี เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2558 ที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรี นายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร
อายุ 25 ปี ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองปราจีนบุรี 7 นาย โดยขณะ

เกิดเหตุนายฤทธิรงค์อายุ 19 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และด้วย
ผลกระทบจากการทรมานทำให้ไม่สามารถกลับเข้ารับการศึกษาจนจบมัธยมศึกษา
ปีที่ 6 ได้ ในคดีดังกล่าวนายฤทธิรงค์กล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 7 นายว่าร่วม

กันทำร้ายร่างกายด้วยการทรมานและบังคับให้รับสารภาพในความผิดคดีวิ่งราว
ทรัพย์ที่ตนไม่ได้กระทำ จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ เป็นคดี
อาญาหมายเลขดำที่ 925/2558

เลขคดีดำเลขนี้ไม่ได้มาโดยง่ายๆ เลยสำหรับผู้เสียหายจากการทรมาน
ด้วยการต่อสู้ของตนเองและครอบครัวอย่างไม่ย่อท้อ โดยเฉพาะบิดาของ

นายฤทธิรงค์ การร้องขอความเป็นธรรมต่อองค์กรภาครัฐและองค์กรอิสระจำนวน
มากตลอดระยะเวลา 6 ปี จนเมื่อคณะกรรมการ ปปท. ได้มีคำสั่งพิจารณาว่าคดี
ที่ร้องเรียนไม่มีมูล ทำให้ครอบครัวของนายฤทธิรงค์พบว่าเมื่อการเรียกร้องต่อ

องค์กรภาครัฐและองค์กรอิสระไม่เป็นผลจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือต่อมูลนิธิ
ผสานวัฒนธรรมซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่ไม่แสวงหากำไร ดำเนินกิจกรรม
ด้านสิทธิมนุษยชนและให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนเพื่อเข้าถึง

ความยุติธรรมตามหลักการแห่งรัฐธรรมนูญและพันธกรณีระหว่างประเทศว่าด้วย
เรื่องสิทธิมนุษยชน ดังนั้น ทางมูลนิธิฯ จึงได้จัดหาทีมทนายความให้ความ
ช่วยเหลือดำเนินคดีแก่นายฤทธิรงค์ฯ โดยการฟ้องคดีอาญาด้วยตนเอง

ทั้งๆ ที่ครอบครัวก็ยังคงมีความหวาดกลัวต่อทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 7 นาย
ที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอาญา ครอบครัวก็ยังไม่หวั่นและยืนยันว่าจะดำเนินคดี

การประชุมกลุมยอยที่ 4