Page 423 - kpi17968
P. 423
412
มาเละ ผู้ต้องหาคดีปล้นปืนค่ายปิเหล็ง เป็นจำเลย ต่อศาลอาญาเมื่อปี พ.ศ.
2522 ข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม เพื่อจะแกล้ง
ให้โจทก์ต้องรับโทษอาญา จากการที่จำเลยได้ให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนของ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ
ทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คดีนี้ถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11720/2557
ซึ่งศาลอาญาได้อ่านเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2558 โดยศาลฎีกามีคำพิพากษา
ยกฟ้อง
เหตุการณ์นี้สืบเนื่องจากกรณีปล้นอาวุธปืนกองพันทหารพัฒนาที่ 4
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (ค่ายปิเหล็ง) อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อปี
พ.ศ.2547 ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหากว่า 10 คน ต่อมาผู้ต้องหาบางคน
รวมทั้งนายซูดีรือมัน มาเละได้ กล่าวหาว่าตำรวจชุดสอบสวนทำร้ายร่างกายด้วย
การกระทำทรมานให้รับสารภาพ ทางดีเอสไอ ทำการสอบสวนและสรุปสำนวนคดี
ว่ามีมูล แล้วส่งให้ ป.ป.ช. ดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2552 ระหว่างที่ ป.ป.ช. ดำเนิน
กระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงอยู่นั้น พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา หนึ่งในจำนวน
ตำรวจชุดสอบสวนผู้ต้องหา ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายซูดีรือมัน มาเละ ผู้ต้องหา
คนหนึ่งซึ่งได้เป็นพยานให้การต่อดีเอสไอ และ ป.ป.ช. กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ตำรวจ
ชุดสอบสวนทรมานขณะสอบสวนอยู่ที่ สภ.ตันหยง โดยโจทก์ยื่นฟ้องนายซูดีรือ
มัน ต่อศาลอาญา(ศาลชั้นต้น) คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2161/2552 ฐานแจ้ง
ข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม เพื่อจะแกล้งให้โจทก์ต้องรับ
โทษอาญา ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ต่อมาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเป็นคดีหมายเลขแดงที่ อ. 3140/ 2554 ว่าจำเลยมีความผิด
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 173 ประกอบ 174 วรรคสอง และ 181 (2)
ลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษา
ศาลชั้นต้น คือยกฟ้อง จำเลยไม่มีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง โจทก์ฎีกา เมื่อวันที่
29 กันยายน 2558 ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา โดยศาลฎีกาพิพากษา
ยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ กล่าวคือ ยกฟ้องโจทก์
การประชุมกลุมยอยที่ 4