Page 422 - kpi17968
P. 422
411
ดังที่ปรากฎอยู่ในตอนท้ายของฎีกาคำสั่งไต่สวนการตายที่ระบุอย่างชัดเจน
ถึงเหตุผลของการเรียกร้องความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมที่ว่า คำสั่งของ
ศาลจังหวัดสงขลาที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐ
ไม่ต้องรับผิดในการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและสิทธิมนุษยชนแต่ประการใด
และอาจเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคล โดยการปฏิบัติที่ทารุณ โหดร้าย และย่ำยีศักดิ์ศรี
ความเป็นมนุษย์ได้อีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อกระบวนการยุติธรรมกรณีตากใบ
ก้าวไม่พ้นไปจนถึงขั้นที่จะนำมาสู่การปรองดองและการฟื้นฟูเยียวยาที่เหมาะสม
ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความรุนแรงที่ยืดเยื้อยาวนานยังคงเกิดขึ้นต่อไป
หย รมาน กนายต ร ห กลับ
การเรียกร้องความยุติธรรมของผู้เสียหายจากการทรมาน นั้น มีสองนัยยะ
คือ การยืนยันสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานว่า “การทรมานเป็นสิ่งต้องห้าม” ทั้ง
หลักการด้านกฎหมายและศีลธรรม ในที่นี้หมายถึงทั้งกฎหมายไทยและกฎหมาย
สากล รวมทั้งหลักศีลธรรมไทยและศิลธรรมในทุกศาสนา การทำร้ายร่างกายกัน
เป็นความผิดและต้องได้รับการลงโทษ และการยุติสิ่งที่เรียกว่า “การปล่อยให้
คนผิดลอยนวล” หรือในภาษาอังกฤษมักใช้คำว่า “Impunity” ทั้งสองสิ่งยังคง
เป็นประเด็นที่แสนยากเข็ญในสังคมไทย
ในประเทศไทยการทรมานยังไม่เป็นความผิดอาญาเป็นเพียงความผิดฐาน
ทำร้ายร่างกาย ซึ่งเหยื่อหรือผู้เสียหายจากการทรมานมักจะไม่กล้าร้องเรียน ไม่มี
หลักฐาน ไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือจากหน่วยงานอิสระได้ทันท่วงที มีบ้าง
กรณีอาจได้รับความช่วยเหลือและเข้าถึงการร้องเรียนได้ ยกตัวอย่างกรณี
นายซูดีรือมัน มาเละ พื้นเพชาวนราธิวาส ถูกควบคุมตัวไปพร้อมๆ กับชาวบ้าน
หลายสิบคนหลังเหตุการณ์ปล้นปืนเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 และถูกทำร้าย
ร่างกายบังคับให้สารภาพว่ามีส่วนร่วมในเหตุการณ์ปล้นปืนในครั้งนั้น
ชะตาชีวิตของซูดีรือมันพลิกผันจากผู้เสียหายจากการทรมานมาเป็น
“จำเลย” ที่นายตำรวจผู้ใหญ่ฟ้องร้องดำเนินคดีด้วยตนเองตั้งแต่ปี พ.ศ.2552
โดยพล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา (ยศในขณะนั้น) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายซูดีรือมัน
การประชุมกลุมยอยที่ 4