Page 633 - kpi17968
P. 633
622
อุปสรรคส่วนใหญ่ คือ เรือนนอนที่จัดสําหรับผู้ต้องขังหญิงมีครรภ์มีพื้นที่ไม่
เพียงพอ อีกทั้งบางช่วงเวลาที่มีผู้ต้องขังมาก เรือนจําไม่สามารถแยกเรือนนอน
ออกจากผู้ต้องขังหญิงทั่วไปได้
2. ด้านการปฏิบัติต่อเด็กติดผู้ต้องขัง พบว่า ด้านสถานที่ ส่วนใหญ่
ร้อยละ 71.7 เห็นว่าเรือนจําไม่สามารถจัดเรือนนอนแยกเฉพาะจากผู้ต้องขังทั่วไป
และเห็นว่าเรือนจําสามารถจัดสถานที่บริบาลทารกที่มีความสะอาดถูก สุขลักษณะ
รวมทั้งกลุ่มตัวอย่างทุกคนเห็นว่าเรือนจําสามารถจัดสถานที่ อาบน้ำ ภาชนะ
เฉพาะของเด็ก สถานที่ตากเสื้อผ้าของเด็กติดผู้ต้องขังไม่ให้ปะปนกับผู้ต้องขัง
ทั่วไปได้ ด้านสวัสดิการ ส่วนใหญ่ร้อยละ 53.1 เห็นว่าเรือนจําจัดให้มีปัจจัยสี่
เพียงพอกับความต้องการของเด็ก เห็นว่าเรือนจําจัดให้มีอาหารเด็กอ่อน อาหาร
เสริมที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตในแต่ละช่วงวัยของเด็กติดผู้ต้องขัง
ด้านสุขภาพอนามัย บุตรของกลุ่มตัวอย่าง ทุกคนได้รับการตรวจสุขภาพ
พัฒนาการจากแพทย์และได้รับการฉีดวัคซีนเป็นประจํา รวมทั้งมีการส่งเด็กที่
เจ็บป่วยเกินกว่าการรักษาของพยาบาลเรือนจําไปรักษาที่โรงพยาบาลภายนอก
เรือนจํา ด้านพี่เลี้ยงเด็ก ส่วนใหญ่ขณะบุตรอยู่ในเรือนจํากับมารดา ไม่มีพี่เลี้ยง
เด็กสําหรับดูแลเด็กติดผู้ต้องขังพบว่า ปัญหาอุปสรรค ส่วนใหญ่เกิดจากเรือนจํา
ไม่สามารถแยก เรือนนอนของผู้ต้องขังหญิงแม่ลูกอ่อน เด็กติดผู้ต้องขังออกจาก
ผู้ต้องขังหญิงทั่วไปได้โดยเฉพาะในกรณีที่เรือนจํามีจํานวนผู้ต้องขังหญิงมาก เรื่อง
ที่กลุ่มตัวอย่างต้องการให้เรือนจําช่วยเหลือมากที่สุด คือให้เรือนจําจัดอาหาร
อาหารเสริม นม และเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ ให้กับผู้ต้องขังหญิงมีครรภ์ผู้ต้อง
ขังหญิงแม่ลูกอ่อน และเด็กติดผู้ต้องขัง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่มีญาติหรือญาติ
อยู่ไกล ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการให้แยกเรือนนอนผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์ ผู้ต้องขังหญิง
แม่ลูกอ่อน เด็กติดผู้ต้องขังออกจากผู้ต้องขังหญิงทั่วไปให้ได้อย่างเด็ดขาด แม้ว่า
จะมีผู้ต้องขังมาก
3. จากการสอบถามความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและผลจาก
การประชุมกลุ่มย่อย พบว่า เรือนจําได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok
Rules) และนโยบายของกรมราชทัณฑ์ตามสภาพการณ์ของงบประมาณ สถานที่
และอัตรากําลังที่มี โดยภาพรวมแล้วเรือนจํา/ทัณฑสถานปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงมี
บทความที่ผานการพิจารณา