Page 291 - kpi18886
P. 291

283




                   มีความเปลี่ยนแปลงบางประการจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 คือ “การดำเนินการ

                   ใดของรัฐที่จะอนุญาตให้ผู้ดำเนินการ ถ้าการนั้นอาจมีผลกระทบต่อทรัพยากร
                   ธรรมชาติ สุขภาพอนามัย คุณภาพชีวิต หรือส่วนได้เสียสำคัญอื่นใดของ
                   ประชาชนหรือชุมชน” ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มมาหลักการเดิมคือ “หรือส่วนได้เสีย

                   สำคัญอื่นใดของประชาชนหรือชุมชน” นี้คืออะไร

                         ประเด็นที่ 2 จากเดิมใช้คำว่า “โครงการที่มีผลกระทบรุนแรง” แต่มาตรา

                   58 ใช้คำว่า “การดำเนินการใดของรัฐหรือที่รัฐจะอนุญาตให้ผู้ใดดำเนินการ”
                   แสดงว่าทั้งรัฐและเอกชน การกระทำทั้งหมดจะอยู่ในความหมายของมาตรา 58

                   นี้ การกระทำทั้งหมดอาจมีผลกระทบแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น จะเห็นว่า
                   หลักการเปลี่ยนไปจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 แต่หลักการนี้จะเป็นรูปธรรมและ
                   สัมฤทธิ์ผลหรือไม่ ต้องมีกฎหมายมารองรับ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ


                         2 เรื่องนี้คือปัญหารูปธรรมของการบังคับใช้สืบเนื่องตั้งแต่ รัฐธรรมนูญ
                   พ.ศ. 2540  ประเด็นจากหลักการจะกลายไปเป็นรูปธรรมได้อย่างไร แม้ว่าจะ
                   ผ่านไป 2 ทศวรรษแล้วก็ตาม ทั้ง 2 เรื่องนี้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของ

                   ประชาชนในวงกว้าง เพราะหากจัดสรรไม่ดี จะทำให้ชุมชน คนเล็กคนน้อย
                   เข้าไม่ถึงเพราะกฎหมายและข้อจำกัดต่างๆ ขณะที่ทุนจะเข้าถึงได้เพราะศักยภาพ

                   ของทุนเองอยู่แล้ว ท้ายสุดแล้วนี่คือวิถีชีวิต และ เศรษฐกิจของประชาชน นั้นคือ
                   เรื่องที่ต้องทำให้สิทธิกินได้ สิทธิคือวิถีชีวิต สิทธิคือความเป็นอยู่ของประชาชน
                   เรื่องที่ต้องทำให้เป็นรูปธรรมและมีดุลภาพ


                         สำหรับอีก 2 ประเด็นสำคัญและกระทบคนจนมากที่สุดคือสิทธิใน
                   กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ฉะนั้นในปฏิรูป สตช. (สำนักงานตำรวจ
                   แห่งชาติ)  2-3 ประการ คือ 1) กระบวนการแต่งตั้งโยกย้ายที่จะไม่ให้มีต้นทุนสูง

                   ซึ่งจะทำให้คนที่ทำงานจริงไม่หมดกำลังใจ 2) ระบบงานสืบสวนสอบสวน
                   การแยกงานสืบสวนกับสอบสวนออกจากกัน ก็ทำให้เกิดระบบถ่วงกันได้ในระดับ

                   หนึ่ง ภายในการเติบโตก้าวหน้าของพนักงานสอบสวนที่อาจไม่จบจากโรงเรียน
                   นายร้อย 3) การถ่วงดุลระหว่างสอบสวนกับอัยการ นี้เป็นประเด็นมาตรฐาน
                   เพราะอัยการมีบทบาทสำคัญดูว่าหลักฐานเพียงพอที่จะนำไปฟ้องร้องได้หรือไม่
                   ระบบถ่วงดุลนี้จะมีส่วนช่วยกำจัดแพะออกจากระบบกระบวนการยุติธรรมทาง





                                                                     การประชุมกลุมยอยที่ 4
   286   287   288   289   290   291   292   293   294   295   296