Page 524 - kpi18886
P. 524
516
ขบวนการทางการเมืองอื่นๆ ที่มีส่วนในความขัดแย้งทางการเมืองไทยในการเข้ามา
ร่วมอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติหลังรัฐธรรมนูญใหม่ได้ ข้อจำกัดดังกล่าวจึงน่าจะ
พิจารณาบทเรียนของโคลัมเบียที่เปลี่ยนคู่ขัดแย้งให้เป็น “คู่แข่งในกติกา
เดียวกัน” หรือมอลโดวาที่ให้ “พหุนิยมทางการเมือง” เพื่อทำให้ยุทธศาสตร์ของ
ประเทศและการปฏิรูปรัฐธรรมนูญนำไปสู่ประชาธิปไตยที่อยู่ภายใต้กติกาเดียวกัน
ได้ หากประเทศไทยต้องวางยุทธศาสตร์เพื่อไปสู่ประชาธิปไตย จึงมิอาจปฏิเสธ
การให้อำนาจการจัดการปกครองแบบมีส่วนร่วม ไปได้
5. บทสรุป
บทความนี้ได้ใช้กรอบการศึกษาการให้อำนาจการจัดการปกครองแบบ
มีส่วนร่วม (EPG) เพื่อมองยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปรัฐธรรมนูญของ
โคลัมเบียและมอลโดวา ที่สนใจเรื่องของ “การแบ่งปันอำนาจ” และ “การมี
ส่วนร่วมเชิงสถาบัน” จากทั้งขบวนการทางการเมืองและพหุนิยมทางการเมือง
ทำให้ทั้งสองประเทศเป็นประเทศประชาธิปไตยใหม่ที่มีแนวโน้มการพัฒนาทาง
การเมืองในระดับที่ดี บทเรียนดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าแม้แต่ประเทศที่มี
สงครามกลางเมือง ปัญหาความขัดแย้งทางอัตลักษณ์ และสังคมที่แตกแยก
แต่หากสามารถสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมที่ทุกคนเข้าถึง (inclusiveness)
ก็สามารถพัฒนาประชาธิปไตยให้ยั่งยืนและอยู่ภายใต้กติกาเดียวกันได้
จากที่กล่าวมาข้างต้นสามารถถอดบทเรียนมาเป็น “ข้อเสนอแนะ” ให้กับ
ตัวแสดงทางการเมืองจากยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปรัฐธรรมนูญของประเทศ
โคลัมเบียและมอลโดวา แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างการมีส่วนร่วม
ของภาคส่วนต่าง ๆ ผ่านการสร้างสถาบันทางการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย
จากบทเรียนดังกล่าวสามารถนำมาเป็นข้อเสนอแนะต่อการมีส่วนร่วมใน
ยุทธศาสตร์ชาติของประเทศไทยได้ ดังต่อไปนี้
1. ภาครัฐควรสร้างแนวทางการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในยุทธศาสตร์
ชาติแบบบนลงล่าง (top-down) ผ่านหลัก “การแบ่งปันอำนาจ” (บทเรียนจาก
ประเทศโคลัมเบีย) ด้วยการระบุถึงตำแหน่ง บทบาทและขอบเขตอำนาจการเข้า
มามีส่วนร่วมของภาคส่วนอื่นๆ ร่วมกับภาครัฐอย่างชัดเจน เนื่องจากบทบาทและ
ขอบเขตอำนาจการเข้ามามีส่วนร่วมของภาคประชาชนถูกระบุเพียงแค่ “การให้
บทความที่ผานการพิจารณา