Page 198 - kpi20756
P. 198
1 8 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 21
ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย
บทบาทของประเทศไทยในกระบวนการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในระดับนานาชาติอย่าง
ต่อเนื่องตลอด 30 ปีที่ผ่านมาที่ได้รับการกล่าวถึงในเวทีนโยบายและเวทีวิชาการระดับนานาชาติ
อยู่เสมอ
เมื่อปี 2533 ผู้นำประเทศและนักการศึกษาทั่วโลกได้มารวมตัวกันที่หาดจอมเทียน จังหวัด
ชลบุรี เพื่อร่วมกันรับรองและลงนามในปฏิญญาจอมเทียนว่าด้วยการศึกษาเพื่อปวงชน (World
Declaration on Education for All and Framework for Action to Meet Basic Learning
Needs) ที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าถือเป็นปฏิญญาสากลฉบับแรกของโลกที่แสดงให้เห็น
ถึงเจตนารมย์อันแรงกล้าของผู้นำเกือบ 200 ประเทศที่ต้องการให้เด็กเยาวชนทุกคนเข้าถึงและ
สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาได้ 100 % และเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือในระดับโลก
เพื่อการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน ที่ประเทศไทยโดยมีประเทศไทยได้มีส่วนร่วมในฐานะเจ้าภาพ
ในการสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือดังกล่าวนี้ขึ้น ซึ่งมีผลต่อการกำหนดนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ
ทางการศึกษาให้แก่เด็กเยาวชนทั่วโลก โดยรัฐมีหน้าที่จัดการศึกษาให้แก่ประชาชนโดยไม่เก็บ
ค่าใช้จ่ายในระดับประถมศึกษาเป็นอย่างน้อย ที่ผ่านมาชื่อหาดจอมเทียมถูกกล่าวถึงในเวที
การศึกษาโลกต่างๆ นับครั้งไม่ถ้วน เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่าผู้นำการศึกษาทุกประเทศยังคงมี
พันธะสัญญาที่ยังไม่แล้วเสร็จ
ในปี 2563 ที่จะถึงนี้ (2020) จึงถือเป็นวาระครบรอบ 30 ปี ปฏิญญาจอมเทียน
ที่ประเทศไทยจะสามารถแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการขยายโอกาสทางการศึกษาเพื่อ
ปวงชนทั้งในประเทศไทย และความก้าวหน้าระดับนานาชาติ นับตั้งแต่ปฏิญญาจอมเทียน
นอกจากนั้น ประเทศไทยยังสามารถใช้วาระครบรอบ 30 ปีนี้ในการแสดงข้อมูลสถิติจากองค์การ
ยูเนสโกว่าในปัจจุบันยังมีเด็กเยาวชนอีกมากกว่า 263 ล้านคนทั่วโลกที่ยังขาดโอกาสทาง
การศึกษา ทุกประเทศยังมีเวลาอีก 10 ปีสุดท้ายของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา
(SDG4) ที่ทั่วโลกได้ให้พันธสัญญาร่วมกันว่าภายในปี 2030 จะร่วมกันจัดการศึกษาให้แก่เด็ก
เยาวชนทุกคน 100 % ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อให้เกิดการทำงานด้วยทรัพยากร งบประมาณ
และความร่วมมือที่เพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายความเสมอภาคทางการศึกษานี้ได้สำเร็จภายในปี
2030
นอกจากปฏิญญาจอมเทียนเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาทั่วโลกก็กลับมากล่าวถึง
บทบาทของประเทศไทยอีกครั้งเมื่อปี 2559 เมื่อรัฐบาลไทยในขณะนั้นได้นำเสนอร่าง ปฏิญญา
อาเซียน 2016 ว่าด้วยการสร้างความเข้มแข็งด้านการศึกษาให้กับเด็กตกหล่น ASEAN
72
Declaration on Strengthening Education for out-of-school Children and Youth (OOSCY)
เอกสารประกอบการสัมมนากลุ่มย่อยที่ 4 เห็นถึงความเป็นผู้นำของรัฐบาลไทยในระดับนานาชาติในวาระความเสมอภาคทางการศึกษา
ให้แก่ผู้นำอาเซียนทั้ง 10 ประเทศได้ให้ความเห็นชอบร่วมกันและประกาศใช้ ณ กรุงเวียงจันทร์
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นอีกหนึ่งในผลงานสำคัญของประเทศไทยที่แสดงให้
ปัจจุบันองค์การยูเนสโกและประเทศสมาชิกอาเซียนได้ใช้ปฏิญญาดังกล่าวนี้เป็นกรอบการทำงาน
https://asean.org/asean-declaration-on-strengthening-education-for-out-of-school-children-and-
72
youthooscy/