Page 202 - kpi20756
P. 202

202     การประชุมวิชาการ
                    สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 21
            ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย


                       5.  ครูในพื้นที่ห่างไกลและครูผู้ดูแลเด็กเยาวชนกลุ่มเป้าหมายข้างต้น


                       6.  เยาวชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์อายุ 18-25 ปีที่ไม่ศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา ปวส. หรือ
                  กศน. หลังสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานอันเนื่องมาจากปัญหาความยากจน


                       ปัจจุบันกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่จัดตั้งขึ้นตาม พรบ.กองทุนเพื่อ
                  ความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. 2561 ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญมาตรา 54 ได้นำเอา

                  กรอบการจัดกลุ่มเป้าหมายของ กอปศ. เพื่อการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในประเทศไทย
                  ร่วมกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนอย่างยั่งยืน


                  4. “ปวงชนเพื่อการศึกษา” (All for Education): หลักการแก้ไขความเหลื่อมล้ำ
                  ทางการศึกษาที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคือกุญแจสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนตาม

                  เป้าหมาย SDG4

                       รายงานการศึกษาขององค์การระหว่างประเทศหลายแห่ง  ได้สังเคราะห์และทบทวน
                                                                                74
                  ประสบการณ์ที่ผ่านมาของการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาพบว่า หนึ่งในบทเรียน
                  ที่สำคัญยิ่งคือ การพึ่งพากลไกภาครัฐแต่ลำพัง ไม่สามารถจัดการปัญหาความเหลื่อมล้ำทาง
                  การศึกษาให้หมดไปได้ การแก้ไขปัญหานี้ให้สำเร็จอย่างยั่งยืนต้องอาศัยความร่วมมือจากทุก

                  ภาคส่วน ด้วยแนวคิดปวงชนเพื่อการศึกษาหรือ (All for Education) ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน
                  ท้องถิ่น ภาคประชาสังคม และองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งมิใช่เฉพาะมิติงบประมาณเท่านั้น แต่

                  รวมถึงมิติเรื่องการเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศ การบูรณาการการทำงาน การติตามและประเมินผล
                  ฯลฯ เพื่อให้ทุกภาคส่วนช่วยกันออกแบบหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างยั่งยืน และหนึ่งใน
                  แนวทางที่เป็นวาระซึ่งทั่วโลกกำลังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง คือ การปฏิรูปการศึกษาเชิงพื้นที่

                  Area Base Education Reform (ABE) ที่ใช้กระบวนการทำงานเชิงพื้นที่ระดมการมีส่วนร่วมจาก
                  ทุกภาคส่วนในการลดความเหลื่อมล้ำ โดยขบวนการดังกล่าวในเครือข่ายขององค์การยูเนสโก

                                                                                                          75
                  ใช้ชื่อว่าเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้ของโลก (Global Network of Learning Cities: GNLC)
                  ซึ่งปัจจุบันมีเมืองทั่วโลกมากกว่า 200 แห่งได้เป็นสมาชิกของเครือข่ายนี้ โดยประเทศไทย
                  มีเทศบาลนครเชียงรายเป็นหนึ่งในสมาชิก


                       องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีข้อได้เปรียบหลายประการในการสนับสนุนการปฏิรูป
                  การศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้สำเร็จและยั่งยืนได้จริง เมื่อเทียบกับการดำเนินการ

                  ในระดับประเทศ ภาพที่ 3 แสดงข้อเท็จจริงทางสถิติของประเทศไทยในการจัดการปัญหาด้าน
                  ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระดับจังหวัดโดยเฉลี่ยที่สามารถทำได้ง่ายกว่าในระดับชาติมากกว่า

        เอกสารประกอบการสัมมนากลุ่มย่อยที่ 4   และยั่งยืนด้วยหลักการ “ปวงชนเพื่อการศึกษา” (All for Education) ได้จริง หากทุกท้องถิ่น
                  100 เท่า อย่างไรก็ดี การดำเนินงานระดับท้องถิ่นที่เป็นหน่วยจัดการตนเองทางการศึกษาที่มี
                  กฎหมายรองรับความเป็นอิสระทางงบประมาณและบุคลากรในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ






                    74
                        https://www.unicef.org/publications/index_78718.html


                        http://uil.unesco.org/lifelong-learning/learning-cities
                    75
   197   198   199   200   201   202   203   204   205   206   207