Page 157 - kpi21595
P. 157
พลเมืองในการผลักดันโครงการเพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น นอกจากการส่งเสริมการมี
ส่วนร่วมของคนในชุมชนแล้ว การส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างแกนนำพลเมืองและนักเรียนพลเมืองก็เป็นอีก
เรื่องหนึ่งที่ควรได้รับการส่งเสริมอย่างเข้มข้นไปพร้อมกัน เพราะสุดท้ายแล้วการสร้างความเป็นพลเมืองไม่อาจ
กระทำได้โดยลำดัง แต่จำเป็นต้องมีเครือข่ายที่ร่วมกันผลักดัน ซึ่งเครือข่ายที่พึงต้องสร้างให้เข้มแข็งอย่างยิ่ง
ก่อนแสวงหาเครือข่ายอื่นจากภายนอกก็คือเครือข่ายภายในแกนนำพลเมืองเองที่ควรต้องสร้างให้เข้มแข็งโดย
การส่งเสริมการมีส่วนร่วมให้มากขึ้น
ประการที่สอง แกนนำพลเมืองยังใช้ประโยชน์จาก “โรงเรียนพลเมือง” ไม่มากนัก
ผลจากการศึกษาชี้ให้เห็นว่าที่ผ่านมาแกนนำพลเมือง ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากโรงเรียนพลเมืองใน
ฐานะ “พื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้” มากนัก เมื่อวิเคราะห์บทสัมภาษณ์ร่วมกับโครงการและปฏิบัติการที่นักเรียน
พลเมืองได้ดำเนินการจะเห็นได้ว่า แกนนำพลเมืองและนักเรียนพลเมืองยังใช้โรงเรียนพลเมืองเป็นเพียงพื้นที่
พื้นที่แสวงหาความรู้มากกว่าเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งๆที่โดยเจตนารมณ์ของโรงเรียนพลเมืองแล้ว
มุ่งหวังเป็นอีกหนึ่งพื้นที่หนึ่งที่คนในชุมชนสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ในประเด็นปัญหาต่างๆ
ที่คนในชุมชนสนใจ เพื่อร่วมกันแสวงหาแนวทางจัดการแก้ปัญหานั้นอย่างมีส่วนร่วมต่อไป จึงส่งผลให้โรงเรียน
พลเมืองถูกปฏิบัติเสมือนโรงเรียนทั่วไปที่ผู้เรียนคือ “ผู้รับ” ที่มีหน้าที่ฟังและทำตามคำสั่ง โดยมีผู้สอนคือ
“ผู้ให้” ทำให้แกนนำพลเมืองก็ดี นักเรียนพลเมืองก็ดี ยังคงใช้พื้นที่ของโรงเรียนพลเมืองเป็นพื้นที่แสวงหา
ความรู้เพื่อเพิ่มพูนความรู้เฉพาะบุคคลมากกว่าจะใช้เป็นพื้นที่ในการริเริ่มสร้างสรรค์กิจกรรมหรือโครงการ
ต่างๆเพื่อตอบสนองความต้องการของคนในชุมชนหรือเป็นไปเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ แม้ว่าโดยหลักสูตรของ
โรงเรียนพลเมืองจะพยายามออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนอย่างมาก โดยให้คนใน
ชุมชนร่วมกำหนดหัวข้อการเรียนรู้ด้วยตัวเอง กระนั้น ในทางปฏิบัตินักเรียนพลเมือง แม้แต่แกนนำพลเมือง ก็
ยังไม่ได้ใช้โรงเรียนพลเมืองเป็นพื้นที่ที่จะนำไปสู่การตั้งประเด็นร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนอย่าง
ต่อเนื่องได้มากนัก
พฤติปฏิบัติเช่นนั้น อาจเกิดจากทัศนคติที่รับรู้ว่า “โรงเรียนพลเมือง” เป็นโรงเรียนทั่วไปที่ผู้สนใจเข้า
มาแสวงหาความรู้ จึงส่งผลให้โรงเรียนพลเมืองไม่ได้ถูกใช้งานอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญอย่าง
ยิ่งและส่งผลต่อการรับรู้ถึงความสำคัญจำเป็นของโรงเรียนพลเมืองของคนในชุมชนด้วย นอกจากนั้นเมื่อ
กล่าวถึง “การเรียน” สำหรับผู้ใหญ่วัยทำงานเรื่องดังกล่าวอาจไม่ได้รับความสนใจมากนัก ส่งผลให้ผู้ที่สนใจเข้า
ร่วมศึกษาในโรงเรียนพลเมืองมีจำนวนน้อย ขณะที่ เมื่อกล่าวถึง “การเรียน” ย่อมมาพร้อมกับ การบ้าน
รายงาน และการเข้าเรียนให้ตรงตามจำนวนที่กำหนด ซึ่งหลายคนไม่พร้อมรับมือกับเรื่องดังกล่าวทำให้
นักเรียนพลเมืองจำนวนไม่น้อยล่าถอยไปเมื่อเรียนมาได้ระยะหนึ่ง เพราะยังไม่เล็งเห็นว่าโรงเรียนพลเมืองเป็น
“พื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้” อีกแห่งหนึ่งที่พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่แห่งนี้ในการพัฒนาชุมชนได้
146