Page 120 - kpiebook62010
P. 120
113
6.2.3 ข้อเสนอการบัญญัติเรื่องความรับผิดของเจ้าของสัตว์หรือผู้อุปการะสัตว์
ในกรณีที่สัตว์นั้นก่ออันตรายต่อชีวิตหรือร่างกายของบุคคล หรือทำให้เกิดความเสียหาย
ต่อทรัพย์สินของผู้อื่น
ตามที่ได้ศึกษาปัญหาเกี่ยวกับการขาดมาตรการสำหรับผู้ที่ไม่ดูแลสัตว์ และปล่อยปละละเลยให้
สัตว์ของตนก่ออันตรายให้แก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของผู้อื่นไว้แล้วในหัวข้อ 5.2.3 ว่า การดูแลรักษาสัตว์
ไม่ให้ก่ออันตรายหรือสร้างความเสียหายให้ผู้อื่นนั้น ถือเป็นการจัดสวัสดิภาพสัตว์อย่างหนึ่งที่ควรอยู่ในบังคับของ
พระราชบัญญัติฉบับนี้ แต่ยังไม่มีกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวกับการจัดสวัสดิภาพสัตว์ออกมา ทำให้ไม่มีช่องทางที่จะ
เอาผิดกับผู้ที่เลี้ยงสัตว์โดยปล่อยปละละเลยและก่อความเดือดร้อนเสียหายให้แก่ผู้อื่นแม้ว่าการที่ผู้ควบคุมสัตว์ดุ
หรือสัตว์ร้ายนั้นปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์
จะสามารถเอาผิดได้ตามประมวลกฎหมายอาญาได้ตามมาตรา 377 แต่ก็ถือเป็นความผิดลหุโทษที่มีระวางโทษ
จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งถือว่าเป็นอัตราโทษที่เบากว่าความผิด
ฐานกระทำทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควรอยู่มาก
จึงมีข้อเสนอในเบื้องต้นว่า อาจจะพิจารณากำหนดความผิดสำหรับผู้ที่ไม่ดูแลสัตว์ และปล่อยปละ
ละเลยให้สัตว์ของตนก่ออันตรายให้แก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ในระดับเดียวกับผู้ที่กระทำความผิด
กระทำการทารุณกรรมสัตว์ เพื่อให้เกิดความตระหนักและรับผิดชอบสำหรับบุคคลผู้เลี้ยงสัตว์หรือควบคุมสัตว์ดุ
สัตว์ร้าย ที่นอกจากเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลที่อาจจะเกิด
จากสัตว์แล้ว ยังเป็นการป้องกันการทารุณกรรมต่อสัตว์ที่เกิดจากการฆ่าสัตว์หรือทำร้ายสัตว์เพื่อการป้องกันหรือ
บันดาลโทสะจากบุคคลเพื่อตอบโต้ในกรณีที่สัตว์นั้นมาทำอันตรายหรือก่อความเสียหายให้แก่บุคคลด้วย ทั้งยัง
เป็นการสร้างความรู้สึกที่เป็นธรรมต่อประชาชนทั่วไปว่าพระราชบัญญัตินี้มิได้มุ่งคุ้มครองสัตว์มากเสียจนละเลย
สวัสดิภาพของมนุษย์
นอกจากนี้ปัญหาอีกประการเมื่อมีกรณีที่สัตว์นั้นทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของ
ผู้อื่น ก็มีกรณีที่ปรากฏว่าผู้ที่น่าจะเป็นเจ้าของสัตว์นั้นปฏิเสธว่าสัตว์ที่ก่อเหตุนั้นไม่ใช่สัตว์ของตน หรือบางครั้งสัตว์
นั้นเป็นสัตว์จรแต่มีผู้อุปการะให้อาหารหรือให้ที่พักพิง จนสัตว์นั้นเป็นสัตว์ติดที่และก่ออันตรายให้แก่บุคคล
โดยบุคคลที่อุปการะสัตว์นั้นไม่ต้องรับผิดชอบในการกระทำของตน ทั้งที่การนั้นสร้างปัญหาทั้งความเสียหาย
โดยตรงต่อชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น และยังเป็นปัญหาเกี่ยวกับสุขอนามัยรวมถึงก่อความเดือดร้อนรำคาญให้แก่
ผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีสัตว์ที่อุปการะอยู่เป็นสัตว์ติดที่นั้นด้วย จึงสมควรที่จะมีบทบัญญัติเพื่อป้องปราม
การกระทำดังกล่าวไว้ โดยถือเป็นบทสันนิษฐานให้ผู้ที่ให้การดูแลหรืออุปการะสัตว์ในลักษณะดังกล่าวจะต้อง
รับผิดชอบด้วยในกรณีที่สัตว์ที่ตนเลี้ยง ดูแล หรืออุปการะนั้นก่อความเสียหายหรือเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ในเบื้องต้นจึงเสนอให้เพิ่ม มาตรา 23/1 ดังนี้
ปัญหาเกี่ยวกับการใช้บังคับของพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรม และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557