Page 121 - kpiebook62010
P. 121
114
“มาตรา 23/1 ห้ามมิให้เจ้าของสัตว์ปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำการใดๆ ให้สัตว์นั้นอาจทำอันตรายแก่ชีวิต
ร่างกาย หรือทรัพย์สินของบุคคลหรือเป็นอันตรายต่อสัตว์อื่น
ในกรณีของสัตว์หากไม่ปรากฏเจ้าของหรือไม่สามารถหาเจ้าของได้ ให้สันนิษฐานว่าผู้เลี้ยง หรือผู้ให้ที่อยู่
อาศัยสัตว์นั้นโดยเปิดเผยเป็นอาจิณ เป็นเจ้าของสัตว์ตามมาตรานี้”
ซึ่งการใช้ถ้อยคำของวรรคสองดังกล่าวนั้น เป็นบทสันนิษฐานเท่านั้น และไม่ได้หมายความว่า
เป็นการกำหนดให้ผู้ที่เลี้ยงหรือให้ที่อยู่อาศัยแก่สัตว์จรจัดจะต้องมีภาระหน้าที่ต้องจัดสวัสดิภาพสัตว์เช่นเดียวกับ
เจ้าของสัตว์จริงๆแต่ให้ถือว่าเป็นผู้ที่กฎหมายสันนิษฐานให้จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในลักษณะเดียวกับเจ้าของสัตว์
ในกรณีที่สัตว์นั้นไปหรืออาจทำอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของบุคคลหรือเป็นอันตรายต่อสัตว์อื่น
และกำหนดบทลงโทษไว้เป็นมาตรา 32/1 โดยกำหนดอัตราโทษเป็นสองกรณี คือในกรณีที่
การปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำการใดๆ แต่สัตว์นั้นยังไม่ได้ทำอันตรายหรือก่อความเสียหายใด เพียงแต่ “อาจ”
ทำอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของบุคคลหรือเป็นอันตรายต่อสัตว์ ก็ให้มีโทษปรับอย่างเดียว เท่ากับ
การกระทำความผิดฐานปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำการใดๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร
ตามมาตรา 23 คือมีโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท
แต่ถ้าเป็นกรณีที่สัตว์นั้นได้ทำอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของบุคคลหรือเป็นอันตราย
ต่อสัตว์แล้ว ก็ให้รับโทษจำคุกเพิ่มเติมเข้าไปด้วย แต่จะลงโทษจำคุกเท่าไรนั้น จะต้องพิจารณาให้เหมาะสมต่อไป
แต่ควรจะเป็นโทษจำคุกที่สูงกว่าความผิดลหุโทษ แต่ไม่เท่ากับความผิดฐานทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุผล
อันสมควร ดังนี้
“มาตรา 32/1 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 23/1 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท
ในกรณีที่การฝ่าฝืนตามวรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้สัตว์นั้นทำอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของบุคคล
หรือเป็นอันตรายต่อสัตว์อื่นแล้ว เจ้าของสัตว์ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ....(เดือน/ปี) ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือ
ทั้งจำทั้งปรับ”
6.2.4 ข้อเสนอเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนสัตว์ผู้เลี้ยงสัตว์หรือผู้ครอบครองสัตว์
ตามที่ได้ศึกษาปัญหาเกี่ยวกับการระบุตัวเจ้าของสัตว์ และการอุปการะดูแลสัตว์จรไว้แล้วในหัวข้อ
5.2.4 ว่า เงื่อนไขสำคัญที่การบังคับใช้กฎหมายนี้ในส่วนของการจัดสวัสดิภาพสัตว์ หรือแม้แต่ข้อเสนอเรื่อง
ความรับผิดของเจ้าของสัตว์หรือผู้อุปการะสัตว์ ในกรณีที่สัตว์นั้นก่ออันตรายต่อชีวิตหรือร่างกายของบุคคล หรือ
ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้อื่นในข้อ 6.2.3 นั้น จะเป็นผลใช้บังคับได้จริง จะต้องมีมาตรการในการ
ระบุตัวเจ้าของสัตว์หรือผู้เลี้ยงสัตว์หรือครอบครองสัตว์ให้สามารถปฏิบัติได้เป็นรูปธรรมเสียก่อน ข้อเสนอที่ทุกฝ่าย
เห็นตรงกัน คือควรกำหนดเรื่องการจดทะเบียนสัตว์หรือเจ้าของสัตว์ไว้ในกฎหมายนี้
ปัญหาเกี่ยวกับการใช้บังคับของพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรม และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557