Page 104 - kpiebook62016
P. 104
87
บทที่ 4
การเปลี่ยนผ่านจากระบอบทหารไปสู่ระบอบประชาธิปไตยในทวีปอเมริกาใต้
ทวีปอเมริกาใต้ในอดีตได้ชื่อว่าส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการรูปแบบใด
รูปแบบหนึ่ง ทุกวันนี้หลายประเทศมีพัฒนาการที่มั่นคงตามวิถีทางประชาธิปไตย แม้จะต้องผ่านการ
ต่อสู้ดิ้นรนเป็นเวลาหลายทศวรรษ ผ่านวิกฤติการเมืองและการจลาจล รัฐประหาร นับครั้งไม่ถ้วน ใน
ภูมิภาคอเมริกาใต้ยังคงเต็มไปด้วยปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล ้า การคอรัปชั่น การบังคับใช้
กฎหมายที่ไม่เท่าเทียม และอื่นๆ แต่พัฒนาการทางการเมืองและการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย
ของหลายประเทศในอเมริกาใต้ สมควรได้รับการศึกษา สองประเทศที่การศึกษานี้น ามาถอดบทเรียน
ในการเปรียบเทียบกระบวนการเปลี่ยนผ่านและจรรโลงประชาธิปไตย คือ ชิลี และอาร์เจนตินา ถึงแม้
ทั้ง 2 ประเทศ เคยอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารเหมือนกัน แต่ความแตกต่างที่โดดเด่นที่สุด
คือ ขณะเมื่อลงจากอ านาจ กองทัพชิลียังคงเหลืออ านาจต่อรองกับรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง
ตรงกันข้ามกับอาร์เจนตินา ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและความพ่ายแพ้ในสงคราม
เกาะฟอร์คแลนด์ ท าให้ความชอบธรรมของรัฐบาลทหารตกต ่าถึงที่สุด จนไร้อ านาจต่อรอง เงื่อนไข
ดังกล่าวส่งผลให้รูปแบบและลักษณะการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยของสองประเทศมี
กระบวนการ และผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ดังจะได้กล่าวในรายละเอียดต่อไป
เส้นทางสู่ประชาธิปไตยของชิลี
เกริ่นน า
ประเทศชิลี เข้าสู่ระบอบเผด็จการทหารเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1973 เมื่อคณะทหาร
(junta) น าโดยพลเอกออกุสโต พิโนเช (Augusto Pinochet) ผู้บัญชาการทหารบก ท าการรัฐประหาร
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประธานาธิบดีซัลวาดอร์ อัลเยนเด (Salvadore Allende) ท่ามกลาง
ความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลที่ยึดถือแนวทางสังคมนิยม กับสภา
คองเกรสที่มีฝ่ายอนุรักษ์นิยมคุมเสียงข้างมาก การรัฐประหารเกิดขึ้นท่ามกลางการประท้วงขับไล่
รัฐบาลโดยชนชั้นกลางอนุรักษ์นิยม และเจ้าของธุรกิจซึ่งต่อต้านนโยบายเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม การ
เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลของประธานาธิบดีอัลเยนเด ได้รับแรงสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา ทั้งด้วย
การโจมตีทางเศรษฐกิจเพื่อท าลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และการปฏิบัติการลับเพื่อให้เกิดความ