Page 147 - kpiebook62016
P. 147
130
บทที่ 5
การเปลี่ยนผ่านจากระบอบพรรคการเมืองเดียว และระบอบทหาร
ไปสู่ระบอบประชาธิปไตยในทวีปแอฟริกาใต้
ความเชื่อโดยทั่วไปและมุมมองที่มีต่อซับซาฮาร่าแอฟริกา หรือแอฟริกาใต้คือ เป็นภูมิภาคที่ล้า
หลังทั้งทางเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ และระดับการพัฒนาประชาธิปไตย จริงอยู่ที่ประเทศส่วนใหญ่ใน
ภูมิภาคนี้ ยังไม่มีประชาธิปไตยที่มั่งคง แต่นับจาก ค.ศ. 2015 เป็นต้นมา อัตราการท ารัฐประหารที่ส าเร็จ
ในทวีปแอฟริกาใต้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และหลายประเทศมีการจัดการเลือกตั้งอย่างสม ่าเสมอ ซึ่งถือได้
ว่าเป็นตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยอย่างจริงจัง ประเทศที่ยกมา
ศึกษาในบทนี้คือ ตูนิเซีย และไนจีเรีย ประเทศตูนิเซียเป็นตัวอย่างที่พรรคการเมืองเดียวปกครองประเทศ
ด้วยระบอบอ านาจนิยม ส่วนไนจีเรียเคยตกอยู่ในการครอบง าของทหารมาอย่างยาวนาน ตูนีเซียในวันนี้
ได้รับการยอมรับและจับตามองว่าเป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ที่พัฒนาการ
ไปสู่ประชาธิปไตยมีแนวโน้มว่าจะสามารถสร้างรากฐานที่มั่งคง ขณะที่การเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย
ในไนจีเรียเต็มไปด้วยอุปสรรค ความพยายามสร้างประชาธิปไตยของไนจีเรียเผชิญปัญหาส าคัญคือ
ความแตกต่างหลากหลายทางชาติพันธุ์และศาสนา น ามาสู่การออกจากประชาธิปไตย (De-democratization)
จากการรัฐประหารเป็นระยะ แต่กว่า 20 ปีที่ผ่านมา ไนจีเรียได้เดินบนเส้นทางการเปลี่ยนผ่านไปสู่
ประชาธิปไตยโดยปราศจากการรัฐประหาร
เส้นทางสู่ประชาธิปไตยของตูนิเซีย
เกริ่นน า
ตูนิเซีย ตั้งอยู่บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นประเทศที่ถือว่าเป็นศูนย์กลางของทวีป
แอฟริกาเหนือ ที่มีความใกล้ชิดกับพื้นที่ในยุโรปและตะวันออกกลาง (the Middle East) ส่งผลให้
ตูนิเซียเป็นประเทศที่มีการผสมผสานทางวัฒนธรรมทั้งยุโรป ตะวันออก แอฟริกา และอิสลาม
ประชากรส่วนใหญ่ซึ่งมีประมาณ 12 ล้านคน นับถือศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่ นั่นหมายถึงการน าหลัก
กฎหมายอิสลาม (Sharia Law) มาปรับใช้ในสังคมร่วมกับกฎหมายอื่น
ประธานาธิบดีซีน อัลอาบีดีน บิน อะลี (Zine El Abidine Ben Ali) ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนที่
สองของประเทศ ปกครองตูนิเซียตั้งแต่ ค.ศ. 1987 - 2011 เป็นระยะเวลา 23 ปี ถึงแม้ประธานาธิบดี