Page 150 - kpiebook62016
P. 150
133
ข้อสังเกตประการหนึ่งที่ควรกล่าวถึงคือ บทบาทของต่างประเทศในฐานะปัจจัยส่งเสริมการ
เปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย เนื่องจากตูนิเซียได้เข้าเป็นสมาชิกของสันนิบาตอาหรับ (the Arab
League) และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเทศตะวันตก ทั้งสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และสหภาพยุโรป
ส่งผลให้การพัฒนาประชาธิปไตยของตูนิเซียได้รับการสนับสนุนจากประเทศตะวันตกเหล่านี้ โดยได้รับ
ความช่วยเหลือทั้งในด้านการจัดการโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจการเมือง และการให้ความร่วมมือ
ทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่ถือได้ว่าเป็นปัจจัยภายนอกที่ส าคัญซึ่งส่งผลให้การขับเคลื่อนประชาธิปไตยของ
ตูนิเซียมีความก้าวหน้า
การโอนคืนอ านาจให้ประชาชน
ตูนิเซียแต่เดิมในทางประวัติศาสตร์ อยู่ในพื้นที่ของอาณาจักรคาร์เธจ (Carthage) เป็น
ศูนย์กลางอ านาจทางทะเลในพื้นที่แอฟริกาเหนือ มีความโดดเด่นทางด้านการค้าและการส่งออก ท าให้
อาณาจักรเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาสงครามท าให้อาณาจักรคาร์เธจตกอยู่ภายใต้การปกครอง
ของโรมัน และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออตโตมัน (the Turkish Ottoman empire) จน
สุดท้ายตกไปอยู่ในอาณานิคมของฝรั่งเศสใน ค.ศ. 1883
ในช่วงของการล่าอาณานิคม ตูนิเซียถูกปกครองโดยเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส กระทั่งหลัง
สงครามโลกครั้งที่สอง นายฮะบีบ บิน อะลี บูรกีบะฮ์ (Habib Ben Ali Bourguiba) นักกฎหมาย
ชาตินิยมและรัฐบุรุษตูนิเซียเป็นผู้น าเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องเอกราช จนสามารถเป็นอิสระใน ค.ศ.
1956 และปกครองด้วยระบอบอ านาจของตนเองกว่าสามทศวรรษ กระทั่งถึง ค.ศ. 1987 ที่มีการ
รัฐประหารเปลี่ยนแปลงอ านาจไปอยู่ใต้การน าของนายซีน อัลอาบีดีน บิน อะลี (Zine el Abidine Ben
Ali) ถือเป็นจุดเริ่มต้นของระบอบอ านาจนิยมบิน อะลี (Ben Ali)
ระบอบ บิน อะลี (Ben Ali) แม้จะถูกเรียกว่าเป็นเผด็จการ แต่ก็มีการจัดการเลือกตั้งซึ่งถูกมอง
ว่าเป็นการเลือกตั้งที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความชอบธรรมในการได้มาและคงอยู่ในอ านาจให้กับ
นายบิน อะลี และพรรค Democratic Constitutional Rally/ Destourian Socialist ของเขา เห็นได้จาก
ผลการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีซีน อัลอาบีดีน บิน อะลี ได้คะแนนเสียงอย่างท้วมท้น กล่าวคือ มากกว่า
ร้อยละ 90 เกือบทุกครั้ง ขณะเดียวกันประธานาธิบดีบิน อะลี ก็กีดกันฝ่ายต่อต้านด้วยการใช้ความ
รุนแรง ลอบสังหารนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม และกดขี่ขูดรีดประชาชนทางเศรษฐกิจ
