Page 66 - kpiebook62016
P. 66
49
127
ประธานาธิบดีให้ปลดนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีออกจากต าแหน่ง อ านาจในการขอให้
128
คณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีเข้าตอบค าถามของสมัชชาหรือคณะกรรมาธิการ นอกจากนี้ การ
ปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติยังได้รับการปกป้องจากการแทรกแซงของฝ่ายบริหารด้วยการ
129
ก าหนดให้ประธานาธิบดีไม่สามารถยุบสมัชชาแห่งชาติได้
อีกองค์กรหนึ่งที่มีบทบาทส าคัญในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร คือศาลรัฐธรรมนูญ ดังปรากฏ
ในอ านาจพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของมติถอดถอนประธานาธิบดีที่ได้รับความเห็นชอบ
จากสมัชชาแห่งชาติ ในกรณีการถอดถอนประธานาธิบดีโรห์ มู-ฮยุน เมื่อ ค.ศ. 2004 ซึ่งศาล
รัฐธรรมนูญได้ท าหน้าที่เป็นกลไกกลั่นกรองมติของฝ่ายนิติบัญญัติที่หวังผลทางการเมืองและไม่
สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชน โดยประเมินได้จากผลการเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติครั้งถัดมา
130
ที่พรรคของประธานาธิบดีโรห์ มู-ฮยุน ได้รับเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้น การปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ
จึงเป็นการตรวจสอบถ่วงดุลการปฏิบัติหน้าที่ของทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติในเวลาเดียวกัน
ขณะที่ใน ค.ศ. 2010 ศาลฎีกาได้ประกาศให้ค าสั่งในสถานการณ์ฉุกเฉินของประธานาธิบดีที่ออกตาม
อ านาจของรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1972 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญฉบับ ค.ศ. 1987 และให้ค าสั่งนั้นมีผลเป็น
โมฆะ โดยศาลฎีกาได้ตีความว่าค าสั่งดังกล่าวมีสถานะเป็นค าสั่งทางปกครอง แม้ว่าในอดีตค าสั่งใน
ลักษณะนี้จะได้รับการปฏิบัติในสถานะเทียบเท่ากับรัฐบัญญัติเนื่องจากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
131
ค.ศ. 1972 ไม่ได้ให้อ านาจแก่ฝ่ายนิติบัญญัติในการยกเลิกค าสั่งดังกล่าว จึงเป็นการเคลื่อนไหวของ
ศาลฎีกาเพื่อจ ากัดการใช้อ านาจของฝ่ายบริหาร
นอกจากองค์กรฝ่ายตุลาการแล้ว ยังมีองศ์กรอิสระที่มีอ านาจในการตรวจสอบฝ่ายการเมือง
ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ หนึ่งในองค์กรอิสระ คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งมีอ านาจใน
การยุบพรรคการเมืองที่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามที่ก าหนดไว้ในรัฐบัญญัติพรรคการเมือง และการ
รักษาไว้ซึ่งความเป็นกลางของข้าราชการการเมืองที่ยังคงด ารงต าแหน่ง เช่นใน ค.ศ. 2007
คณะกรรมการการเลือกตั้งออกค าเตือนไปยังประธานาธิบดีโรห์ มู-ฮยุน ที่ได้ท าการปราศรัยโจมตี
127 Constitution of the Republic of Korea, Article 63, 86.
128 Constitution of the Republic of Korea, Article 62.
129 EAF Editorial Group, op. cit.
130
Dae-Kyu Yoon, op. cit., pp. 162 – 163.
131 Jongcheol Kim, op. cit., p. 82.