Page 69 - kpiebook62016
P. 69
52
จ านวนมากที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการยึดอ านาจของอดีตประธานาธิบดีชุน ดู-ฮวาน เมื่อวันที่ 12
ธันวาคม ค.ศ. 1979 และให้ด าเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามการลุกฮือที่เมืองกวางจู ส่งผล
140
ให้ทั้งอดีตประธานาธิบดีชุน ดู-ฮวาน และอดีตประธานาธิบดีโรห์ แท-วู ถูกตัดสินให้รับโทษจ าคุก
การสถาปนาการควบคุมของพลเรือนเหนือกองทัพได้รับการวางรากฐานอย่างแน่นหนาใน
สมัยของประธานาธิบดีคิม แด-จุง ใน ค.ศ. 1998 โดยขณะที่ประธานาธิบดีคิม ยอง-ซาม ลดอิทธิพล
ของกลุ่มอ านาจเก่าและด าเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนร่วมในการยึดอ านาจของประธานาธิบดีชุน ดู- ฮวาน
การกระท าดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดความแตกแยกในกองทัพและขวัญก าลังใจของทหารตกต ่าลง
ประธานาธิบดีคิม แด-จุง สัญญาที่จะยุติการแบ่งแยกในกองทัพและจะเปลี่ยนระบบการเลื่อนต าแหน่ง
ไปอิงจากมาตรฐานอาชีพโดยสมบูรณ์ ซึ่งรวมถึงการยกเลิกการแบ่งแยกผู้ที่เคยมีส่วนในการยึดอ านาจ
ของอดีตประธานาธิบดีชุน ดู-ฮวาน ความเปลี่ยนแปลงในนโยบายดังกล่าวส่งผลให้กองทัพเกาหลีใต้
141
พัฒนาไปสู่ความเป็นกองทัพมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
บทบาทของกลุ่มต่างๆ ในสังคม
1. พรรคการเมือง
ในช่วงแรกของการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยของเกาหลีใต้ ในปลายทศวรรษที่ 1980 พรรค
การเมืองของเกาหลีใต้ยังคงมีความอ่อนแอ เนื่องจากฐานการสนับสนุนของประชาชนยังผูกโยงอยู่กับ
ตัวบุคคลมากกว่าพรรคการเมือง จากการที่ผู้น าทางการเมืองหลังการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย
เป็นบุคคลที่มีเครือข่ายส่วนตัวกว้างขวาง ประกอบกับการด าเนินนโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์อย่าง
แข็งกร้าวและต่อเนื่อง ส่งผลให้มวลชน เช่น ผู้ใช้แรงงาน ไม่สามารถรวมตัวกันเพื่อจัดตั้งพรรคการเมือง
142
ได้ พรรคการเมืองในยุคต้นของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยจึงมีลักษณะเป็นพรรคที่ท าหน้าที่
143
รองรับกลุ่มชนชั้นน า (cadre party) เป็นหลัก โดยช่วงเวลาดังกล่าวได้ถูกเรียกว่าเป็นยุค “สามคิม”
(three Kims) เนื่องจากพรรคการเมืองที่มีฐานเสียงที่เข้มแข็งที่สุด 3 พรรค ล้วนมีหัวหน้าพรรคที่มี
นามสกุลคิม (Kim) ทั้งสิ้น ได้แก่ นายคิม ยอง-ซาม หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านเดิม ซึ่งได้รวมพรรค
140 Ibid., pp. 255 – 256.
141 Ibid., pp. 256 – 257.
142
Olli Hellmann, Political Parties and Electoral Strategy (New York: Palgrave MacMillan, 2011), p. 38.
143 Ibid., p. 34.