Page 84 - kpiebook62016
P. 84
67
ตารางที่ 3.4 จ านวนที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรของพรรคการเมืองอินโดนีเซีย ค.ศ. 1999(ต่อ)
พรรค จ านวนที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร
PNI-M 1
IPKI 1
PKU 1
รวม 462
ที่มา: Aris Anata, Evi Nurvidya Arifin, and Leo Suryadinata, Emerging Democracy in
Indonesia (Singapore: Institute of Southeast Asian Studies, 2005), p. 14.
การปฏิรูปในสมัยประธานาธิบดีฮาบิบีส่งผลให้การเมืองของอินโดนีเซียเปิดกว้างมากขึ้น
อนุญาตให้จัดตั้งพรรคการเมือง และลดจ านวนสมาชิกสมัชชาที่ปรึกษาประชาชนที่มาจากการแต่งตั้งลง
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งประธานาธิบดีก็ยังคงท าโดยอ้อมผ่านการลงคะแนนในสมัชชาที่ปรึกษา
ประชาชน โดยในการลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1999 พรรคที่ถูกคาดหวัง
ว่าจะเป็นแกนน าในการจัดตั้งรัฐบาลคือพรรค Indonesian Democratic Party of Struggle (PDI-P)
ซึ่งมีนางเมกาวาตี ซูการ์โนบุตรี (Megawati Sukarnoputri) บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีซูการ์โน
เป็นหัวหน้าพรรค และเป็นพรรคที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุดถึง 153 คน แต่ความล้มเหลว
ของพรรคในการเจรจาเพื่อร่วมเป็นพันธมิตรกับพรรคการเมืองอื่นๆ ส่งผลให้สมัชชาที่ปรึกษาประชาชน
ลงคะแนนเสียงเลือกให้นายอับเดอร์ราห์มาน วาหิต (Abdurrahman Wahid) จากพรรค National
Awakening (PKB) ซึ่งเป็นพรรคที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นอันดับ 3 ด ารงต าแหน่ง
ประธานาธิบดีด้วยคะแนนเสียง 373 เสียง โดยมี 313 เสียงลงคะแนนให้นางเมกาวาตี ทั้งนี้
ประธานาธิบดีวาหิตได้พยายามเสริมสร้างเสถียรภาพของรัฐบาลด้วยการเชิญพรรคการเมืองต่าง ๆ
รวมถึงผู้แทนจากกองทัพเข้าร่วมรัฐบาลและมีการจัดสรรต าแหน่งรัฐมนตรี ถึง 6 ต าแหน่งให้แก่กองทัพ
รวมถึงพลเอกวิรันโต ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีผู้ประสานงานด้านการเมืองและความมั่นคง และ
พรรคของนางเมกาวาตีที่ได้รับจัดสรรต าแหน่งรัฐมนตรี 4 ต าแหน่ง ขณะที่นางเมกาวาตีได้ด ารง
190
ต าแหน่งเป็นรองประธานาธิบดี แต่การที่ประธานาธิบดีวาหิตได้แต่งตั้งบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับ
ตนเองด ารงต าแหน่งรัฐมนตรี กอปรกับปัญหาอื้อฉาวที่บุคคลใกล้ชิดและเครือญาติใช้สายสัมพันธ์
190 Harold Crouch, Political Reform in Indonesia after Soeharto, op. cit., pp. 28-29.