Page 246 - kpiebook65010
P. 246
แนวทางและวิธีการวิเคราะห์
ผลกระทบทางสังคมในการตรากฎหมาย
การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 รวมถึงแนวทางใน RIA
Guidelines และ RIA Handbook ด้วย
5.2.2.2. การวิเคราะห์ทางเลือก
รายงานฉบับนี้ได้กล่าวถึงสภาพปัญหาอันเป็นที่มาของการเสนอร่างกฎหมาย
ไว้อย่างชัดเจน คือ การที่ “ผู้รับทุนหรือนักวิจัยไม่สามารถเป็นเจ้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรมได้
ด้วยข้อจำกัดด้านกฎหมายและระเบียบของหน่วยงานให้ทุนของรัฐ กล่าวคือ กฎหมายและระเบียบ
ของหน่วยงานให้ทุนของรัฐส่วนใหญ่ระบุให้ผู้ให้ทุนเป็นเจ้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรม หรือ
ผู้ให้ทุนเป็นเจ้าของร่วมกับผู้รับทุน ซึ่งหากมีผู้ต้องการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์
จะต้องมาขออนุญาตในการใช้สิทธิ โดยจะต้องทำเป็นสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ (Licensing
Agreement) ซึ่งมีขั้นตอนขอความยินยอมจากผู้เป็นเจ้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรมทุกฝ่าย และ
การเจรจาต่อรองค่าธรรมเนียมการใช้สิทธิซึ่งใช้ระยะเวลานาน จึงเป็นอุปสรรคที่ทำให้ผลงานวิจัย
และนวัตกรรมที่ผู้ให้ทุนถือครองความเป็นเจ้าของไม่ถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ งบประมาณ
ที่รัฐลงทุนด้านการวิจัยและนวัตกรรมจึงไม่ก่อผลในเชิงเศรษฐกิจได้อย่างที่ควรจะเป็น การแก้ไข
อุปสรรคข้างต้น สามารถดำเนินการได้โดยการออกกฎหมายเพื่อกำหนดให้ผลงานวิจัยและ
นวัตกรรมเป็นของผู้รับทุน ซึ่งกฎหมายจะใช้บังคับกับหน่วยงานให้ทุนของรัฐที่ให้ทุนเพื่อการวิจัย
และนวัตกรรมจากเงินงบประมาณแผ่นดิน”
โดยในการกล่าวถึงมาตรการที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น ในหัวข้อ 3.1 ได้ระบุว่า
“ปัจจุบันหน่วยงานให้ทุนในระบบวิจัยและนวัตกรรมมีกฎและระเบียบเรื่องการเป็นเจ้าของผลงาน
วิจัยและนวัตกรรมที่เกิดจากการให้ทุนแตกต่างกันไป กล่าวคือ หน่วยงานให้ทุนบางแห่งเป็น
เจ้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรมแต่เพียงผู้เดียว บางแห่งให้ผู้รับทุนเป็นเจ้าของร่วม ซึ่งทำให้เกิด
ความลักลั่นในทางปฏิบัติสำหรับผู้รับทุนและผู้ต้องการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์
เช่น เมื่อผู้รับทุนหรือผู้ต้องการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เป็นภาคเอกชนมาขอทำ
สัญญาโอนสิทธิความเป็นเจ้าของหรือขอทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในผลงานวิจัยและนวัตกรรม
หน่วยงานให้ทุนบางแห่งสามารถทำสัญญาให้ใช้สิทธิในผลงานวิจัยและนวัตกรรมได้ บางแห่งทำได้
เพียงสัญญาให้ผู้รับทุนหรือผู้ใช้ประโยชน์เป็นผู้บริหารจัดการผลงานวิจัยและนวัตกรรม และ
บางแห่งมีแนวปฏิบัติที่ยุ่งยากและซับซ้อนโดยต้องทำหนังสือขอความเห็นไปยังสำนักงานอัยการ
สูงสุดเพื่อพิจารณาร่างสัญญาและการอนุญาตให้ใช้สิทธิซึ่งทำให้เกิดความล่าช้า ไม่ทันต่อ
การเปลี่ยนแปลงในการดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม”
สถาบันพระปกเกล้า
234