Page 11 - kpiebook65053
P. 11

“ประเทศไทยในอนาคต Future Thailand : มิติที่ 2 สังคม ชนบท ท้องถิ่น”  โดย สถาบันพระปกเกล้า

                          เกื้อกูลยังมีอยู่แต่ไม่มากนัก ขณะที่การแสวงหาประโยชน์ส่วนตนมีมากขึ้น  ในอนาคตสังคม
                          ปนสุขปนทุกข์เป็นสังคมที่ทรัพยากรยังมีอยู่แต่มีไม่เพียงพอในบางชุมชนและเผชิญกับการแย่งชิง

                          ทรัพยากร กล่าวโดยสรุปสังคมปนสุขปนทุกข์เป็นสังคมที่รัฐให้ความส าคัญกับการพัฒนา
                          โครงสร้างพื้นฐาน มีการคมนาคมที่ดีขึ้น มีการพัฒนาเศรษฐกิจที่ดี แต่คนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึงบริการ
                          สาธารณะมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีขึ้น ประชาชนมีหนี้สิน ขาดโอกาสที่จะมีงานท า ถึงแม้จะมีบริการ
                          ทางการแพทย์ที่ดีแต่ประชาชนยังมีสุขภาพที่เสื่อมโทรม เพราะขาดความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ

                          และมีรายได้ไม่เพียงพอ  มีครอบครัวแต่ท าหน้าที่ไม่สมบูรณ์ เป็นสังคมที่มีโครงสร้างพื้น
                          ฐานรองรับทุกอย่างแต่ประชาชนกลับไม่มีชีวิตชีวา
                                 4)  ฉากทัศน์สังคมอมทุกข์ เป็นลักษณะของสังคมที่มีความเหลื่อมล้ ารุนแรง สังคมมี
                          ความแตกแยกและความขัดแย้งที่ร้าวลึก ทั้งความแตกแยกทางความคิด ช่องว่างระหว่างคนรุ่น

                          เก่ากับคนรุ่นใหม่ (generation gap) ผู้คนเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนและแสวงหาวัตถุและเงิน
                          ระบบอุปถัมภ์มีบทบาทสูงขึ้น ประชาชนไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ต้องรอรับความช่วยเหลือจาก
                          รัฐ ประชาชนมีหนี้สิน รัฐใช้ชนบทเป็นกลไกการสะสมทุน และดูดทรัพยากรออกจากชนบท รวมถึง
                          ท าให้ชนบทเป็นแหล่งรองรับฐานอุตสาหกรรมหนัก เช่น โรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม นิคม

                          อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยไม่มีการวางแผนรองรับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ฐานทรัพยากรใน
                          ชนบทถูกใช้ไปกับอุตสาหกรรม เกิดการขาดแคลนทรัพยากร ผู้คนพึ่งพาตนเองไม่ได้ต้องอาศัยเงิน
                          ในการซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคจากเมือง เป็นสังคมที่ขาดความสมดุลอย่างรุนแรง โดยเฉพาะการที่

                          มีเพียงการบริโภคแต่ไม่มีการผลิต ส่งผลให้ขาดความมั่นคงทางอาหาร ผู้คนต่างคนต่างอยู่และ
                          ไม่ให้ความส าคัญกับการมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนา แต่หันหลังให้กับการมีส่วนร่วม การไปท าบุญ
                          และวัฒนธรรมดั้งเดิมแทบไม่มีเหลืออยู่ เพราะคนในชนบทมีวิถีชีวิตแบบคนเมือง คือ ปัจเจกชน
                          นิยม แสวงหาเงินและวัตถุ สังคมอุปถัมภ์  น าไปสู่ระบบมาเฟียแบบพวกพ้อง ความเป็นชุมชน
                          ลดลง อีกทั้งทรัพยากรธรรมชาติร่อยหรอ มีการแย่งชิงทรัพยากร เกิดปัญหาทางสังคมและปัญหา

                          สุขภาพ มีอัตราการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเพิ่มขึ้น คุณภาพสังคมอยู่ในระดับฑ์
                          ต่ า (Low social quality) มาก


                       ในฉากทัศน์ทั้งสี่แบบนี้ตัวแบบที่พึงปรารถนาที่มีความเป็นไปได้และมีความเหมาะสมต่อสังคมชนบทไทย
               คือ สังคมชนบทแบบสมดุลและยั่งยืน (Sustainable and Balance Society)



               อภิปรายผล

                       จากการวิจัยครั้งนี้ได้พบปัญหาที่ส าคัญที่เป็นผลมาจากการพัฒนาประเทศคือ คนรุ่นใหม่ในชนบท
               มีความสนใจในการท างานภาคเกษตรกรรมลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มแรงงานรุ่นใหม่ที่มีอายุอยู่ระหว่าง
               15-24 ปี ในปี 2555 จะมีประมาณร้อยละ 4.2 ของแรงงานทั้งประเทศ ขณะที่กลุ่มอายุระหว่าง 25 ถึง 39 ปี
               มีประมาณร้อยละ 10.5 รวมแรงงานทั้ง 2 กลุ่มนี้ประมาณร้อยละ 10.7 ของแรงงานทั้งประเทศ คนกลุ่มนี้

               เมื่อถึงปี 2574 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า (นับจากปี 2564) จะมีอายุระหว่าง 35 ถึง 59 ปี ถ้าหากมีสมมุติฐานว่า
               ประชากรวัยเด็กที่มีอายุต่ ากว่า 15 ปีในปัจจุบัน ไม่เข้าสู่แรงงานภาคเกษตรเลย หมายความว่าในปี 2574
               ประเทศไทยจะมีแรงงานภาคเกษตรอยู่ประมาณร้อยละ 15 ของแรงงานทั้งประเทศ







                                                           10
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16