Page 290 - kpiebook65064
P. 290

240           โครงการสังเคราะห์ข้อเสนอ
                           เพื่อเสริมสร้างการอภิบาลระบบยา




                         7.2.1 ความเสี่ยงอันเกิดจากความไม่ครบถ้วนและไม่ทันสมัยของกฎหมาย

                   ขึ้นทะเบียนตำรับยา


                              เมื่อพิจารณาในข้อกฎหมายพบว่ากฎหมายหลักที่ใช้ในการขึ้นทะเบียนตำรับยา คือ

                   พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ที่ให้อำนาจสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในการขึ้น
                   ทะเบียนตำรับยา อำนาจการเก็บค่าธรรมเนียม อำนาจในการยกเลิกทะเบียนตำรับยา และอำนาจ
                   ของคณะกรรมการยาในการให้คำแนะนำต่อการขึ้นทะเบียนตำรับยาแก่ อย. เป็นกฎหมายที่เก่าและ

                   ขาดความครบถ้วนในเนื้อหาสาระ จากการวิเคราะห์แบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างทั้งสามกลุ่ม
                   พบว่าค่าเฉลี่ยของทั้งสามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามต่อภาพรวมต่อกระบวนการการขึ้นทะเบียนตำรับ

                   ยาให้ค่าคะแนนด้านกฎหมาย/กฎระเบียบระเบียบต่ำที่สุดที่ 5.08 คะแนน และค่าคะแนนความเห็น
                   ในส่วนองค์ประกอบของธรรมาภิบาลที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งสามกลุ่มมีความคิดเห็นว่า เห็นด้วย
                   ในประเด็นนิติรัฐ (Rule of Law) เพียงค่าเฉลี่ย 5.30 หรือคิดเป็น 53% เท่านั้น สอดคล้องกับ

                   จากการสัมภาษณ์เชิงลึกหลายฝ่ายเห็นว่าความล้าสมัยของพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ทำให้
                   มาตรการหรือข้อเสนอในการพัฒนาและปรับปรุงการขึ้นทะเบียนตำรับยาทำได้อย่างจำกัดเพราะ

                   กฎหมายไม่ให้อำนาจหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาไว้     1

                              เมื่อพิจารณาตามเกณฑ์องค์ประกอบกฎหมายด้านยาของ WHO  พบว่าพระราช
                                                                                           2
                   บัญญัติยา พ.ศ. 2510 ตามตารางที่ 7.3 มีความเสี่ยงอันเกิดจากความไม่ครบถ้วนและ

                   ไม่ทันสมัยของกฎหมายขึ้นทะเบียน อาทิ 1) การไม่กำหนดข้อห้ามเรื่องความขัดกันด้าน
                   ผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ และ 2) การไม่ทบทวนทะเบียนตำรับยาที่ได้รับการขึ้นทะเบียน
                   เนื่องจากกฎหมายมิได้กำหนดอายุของทะเบียนตำรับยาหรือกรอบเวลาที่ต้องมีการทบทวนทะเบียน

                   ยา (อาทิ ให้มีการทบทวนทุก ๆ 5 ปี) ทำให้ทะเบียนยาปัจจุบันเป็นทะเบียนยาตลอดชีพและจะมี
                   การทบทวนก็ต่อเมื่อมีการร้องขอหรือเกิดปัญหาเท่านั้น เป็นต้น แม้ว่าในบางประเด็นจะมีระเบียบ

                   หรือประมวลจริยธรรมออกมาเพื่อรองรับประเด็นที่ WHO เสนอก็ตาม

                              อย่างก็ตาม แม้ว่ามีการออกกฎหมายลำดับรองในรูปของกฎกระทรวง ประกาศ
                   กระทรวง ระเบียบ หรือคู่มือกับหลักปฏิบัติในการดำเนินงานและบังคับใช้มารองรับเพื่อรองรับต่อ

                   ความเปลี่ยนแปลง แต่มักเกิดข้อโต้แย้งและการร้องเรียนจากผู้ขอขึ้นทะเบียนตำรับยาถึง
                   ความเหมาะสมในการออกกฎระเบียบเหล่านี้ที่ไม่ได้ยึดตามอำนาจในพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510
                   หรือเป็นกฎระเบียบที่เปิดช่องการใช้ดุลพินิจ ผู้ให้สัมภาษณ์ท่านหนึ่งเห็นว่าแม้จะมีระเบียบในการ

                   ขอข้อมูลเรื่องสิทธิบัตรยาในการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากบริษัทเอกชน แต่เรื่องนี้เป็นไปตามความ
                   สมัครใจของบริษัทยา เนื่องจาก พรบ. ยาฯ พ.ศ. 2510 ไม่ได้ให้อำนาจ  นอกจากนี้ มักเกิดการ
                                                                                    3
                   โต้แย้งเพราะมีการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบภายในและประกาศบังคับใช้ทันที โดยไม่มีการประกาศให้
                   ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและภาคเอกชนทราบล่วงหน้า ทำให้พวกเขาที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ


                          1  ผู้ให้สัมภาษณ์ทุกท่านให้ความเห็นไปในทางเดียวกัน
                          2  ดูเพิ่มเติมในบทที่ 4
                          3  สัมภาษณ์, ผู้ให้สัมภาษณ์ F, วันที่ 11 พฤศจิกายนพ.ศ. 2556


                   บทที่ 7
                   สถาบันพระปกเกล้า
   285   286   287   288   289   290   291   292   293   294   295