Page 166 - kpi15476
P. 166

การประชุมวิชาการ
                                                                                          สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15   1 5


                                        ศาสนา ทั้งยงทรงดูแลชีวิตสัตว์ดิรัจฉานที่ถูกล่า (มิค – เนื้อ) และนกให้อยู่
                                        อย่างปลอดภัย

                                        4.3 ให้ทรัพย์แก่ประชาชนที่ไม่มีทรัพย์ในแคว้นของพระองค์
                                        4.4 เข้าไปหาสมณะและพราหมณ์ผู้เว้นขาดจากภาวะที่ทำให้ขาดสติ ผู้มั่นคง
                                        อยู่ในขันติและโสรัจจะผู้ฝึกตนจนสงบเย็นแล้วถามปัญหาธรรมว่า อะไรคือ

                                        กุศล อะไรคืออกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้
                                        อะไรเมื่อทำลงไปจะทำให้เกิดทุกข์ตลอดกาลนาน อะไรเมื่อทำลงไปจะทำให้

                                        เกิดสุขตลอดกาลนาน ครั้นฟังสมณะและพราหมณ์อธิบายแล้วก็แนะนำ
                                        ชาวแคว้นให้เว้นสิ่งที่เป็นอกุศลแล้วถือปฏิบัติตามสิ่งที่เป็นกุศล

                                        ท้าวเธอทรงประพฤติตามจักรพรรดิวัตรพร้อมทรงรักษาอุโบสถทุกวันขึ้น
                                        15 ค่ำอยู่บนปราสาทชั้นบนอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อผลบุญพร้อม

                                        ให้ผลก็บันดาลจักรแก้วให้ปรากฏ พระองค์ทรงทราบมาก่อนว่า การที่จักรแก้ว
                                        ปรากฏเป็นของคู่พระบารมีแสดงว่าพระองค์ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์แล้ว

                                        จึงเสด็จไปเอาพระหัตถ์ซ้ายจับพระภิงคาร(น้ำเต้า)แล้วเอาพระหัตถ์ขวาพรม
                                        จักรแก้วพร้อมตรัสกับจักรแก้วประหนึ่งว่าจักรแก้วนั้นมีชีวิตว่า “จักรแก้ว
                                        ผู้เจริญจงหมุนไปเถิด จักรแก้วผู้เจริญจงชนะอย่างเด็ดขาดเถิด”


                                     5. ความเป็นไปของจักรแก้ว ครั้นแล้ว จักรแก้วก็หมุนไปทางทิศตะวันออก
                                        พระเจ้าจักรพรรดิ์ก็เสด็จตามจักรแก้วไปพร้อมด้วยกองทัพ 4 เหล่า คือ เหล่า
                                        ช้าง เหล่าม้า เหล่ารถ และเหล่าราบ (พลเดินเท้า) และทรงตั้งค่ายพักในดิน

                                        แดนที่จักรแล้วหมุนไปหยุดอยู่ แล้วก็เกิดเหตุการณ์สำคัญคือบรรดาพระราชา
                                        แห่งดินแดนในทิศตะวันออกนั้นก็พากันเข้าไปเฝ้าพระเจ้าจักรพรรดิ์เป็นการ

                                        ต้อนรับพร้อมทั้งยกราชสมบัติให้พระองค์ปกครองและขอพระราชทาน
                                        พระบรมราโชวาท พระเจ้าจักรพรรดิ์ก็พระราชทานพระบรมราโชวาทความว่า
                                        “ท่านทั้งหลายต้องไม่ฆ่าสัตว์ ต้องไม่ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขามิได้ให้ ต้องไม่

                                        ประพฤติผิดในกามทั้งหลาย ต้องไม่พูดเท็จ ต้องไม้ดื่มน้ำเมา และจงบริโภค
                                        (กินอยู่) ตามที่เคยบริโภค (กินอยู่) มาเถิด”

                                        จากนั้น จักรแก้วก็หมุนไปลงทะเลด้านทิศตะวันออก แล้วผุดขึ้นทางทิศใต้

                                        ลงทะเลด้านทิศใต้ไปผุดขึ้นทางทิศตะวันตก ลงทะเลด้านทิศตะวันตกไปผุดขึ้น
                                        ทางทิสเหนือ ในแต่ละทิศที่จักรแก้วหมุนไปนั้น พระเจ้าจักรพรรดิ์ก็เสด็จตาม

                                        ไปพร้อมกับกองทัพ 4 เหล่า บรรดาพระราชาในแต่ละทิศต่างเข้าเฝ้าพระเจ้า
                                        จักรพรรดิ์สวามิภักดิ์แล้วขอพระราชทานพระบรมราโชวาทซึ่งก็พระราชทานให้
                                        มั่นคงในมนุษยธรรม 5 ประการ

                                        ครั้นแล้ว จักรแก้วนั้นก็นำพาพระองค์แผ่แสนยานุภาพไปได้แผ่นดินโดยไม่ต้อง

                                        ใช้กำลังจนจรดทะเลแล้วกลับมายังราชธานีได้หยุดประดิษฐานอยู่ที่หน้ามุข
                                        ศาลาว่าความใกล้ประตูพระตำหนักชั้นในของพระเจ้าจักรพรรดิ์เพิ่มความ                 เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย

                                        สง่างามแก่พระตำหนักชั้นใน
   161   162   163   164   165   166   167   168   169   170   171