Page 167 - kpi15476
P. 167

1       การประชุมวิชาการ
                   สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15


                                    ราชวงศ์ของพระเจ้าเนมิสืบสายตำแหน่งพระเจ้าจักรพรรดิ์จากพระราชบิดา
                                    สู่พระราชโอรสพระองค์โตตามลำดับรัชกาลมาถึง 7 รัชกาล แต่ละรัชกาล

                                    สิ้นสุดลงด้วยการเสด็จออกบวชเมื่อจักรแก้วเคลื่อนจากฐานที่ตั้ง

                                 6.  จักรแก้วอันตรธาน-พระราชจริยาวัตรของพระราชาเปลี่ยนไป ตกถึงรัชกาล
                                    ต่อมาซึ่งเป็นรัชกาลที่ 8 พระราชามิได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ความนี้ชัดเจน
                                    เมื่อตอนที่จักรแก้วอันตรธานหายไปก็ไม่ปรากฏมาอีก ซึ่งหากพระราชา

                                    พระองค์ใดจักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ จักรแก้วก็จักมาปรากฏเป็นของ
                                    คู่พระบารมีของพระราชาพระองค์นั้นอีก แต่สำหรับพระราชารัชกาลนี้หาได้

                                    เป็นเช่นนั้นไม่ พระราชาเองก็มิได้เสียพระทัย ไม้ได้แสดงความเสียพระทัย
                                    ออกมาให้ใครเห็น ประการหนึ่งคล้ายจะทรงทราบว่าพระบุญญาธิการไม่พอ
                                    ที่จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ได้ และอีกประการหนึ่งก็คล้ายจะทรงทราบว่า

                                    ไม่มีพระศักยภาพด้านพระคุณธรรมส่วนพระองค์พอที่จะประพฤติตาม
                                    พระจักรพรรดิวัตรให้สมบูรณ์ได้ จึงมิได้เสด็จเข้าเฝ้าพระราชฤๅษีแล้วตรัสถาม

                                    เกี่ยวกับจักรพรรดิวัตรอันเป็นอริยะเหมือนพระเจ้าจักรพรรดิ์พระองค์ก่อนๆ
                                    ทรงปกครองบ้านเมืองตามพระราชหฤทัยไม่ได้ปรึกษาใครๆ จึงทำให้ความ
                                    เจริญของแคว้นชะงักลง แม้ต่อมาหมู่อำมาตย์ จะพากันเข้าไปกราบทูลอธิบาย

                                    ถึงพระราชจริยวัตรของพระเจ้าจักรพรรดิ์พระองค์ก่อนๆ พระองค์ก็มิได้
                                    สนพระทัย  พระองค์ได้แต่จัดการรักษาป้องกันและคุ้มครองแบบชอบธรรมให้

                                    แต่ก็มิได้พระราชทานทรัพย์ช่วยเหลือคนยากจน ทำให้ความยากจนขยายตัว
                                    จนกระทั่งเกิดลักขโมยขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่จับขโมยมาเฝ้าเพื่อพิจารณาโทษ
                                    พระราชาก็ทรงแก้ปัญหาด้วยการพระราชทานทรัพย์ให้แล้วตรัสอบรมให้รู้จัก

                                    เอาทรัพย์ที่พระราชทานไปเลี้ยงดูตัวเองบิดามารดาบุตรภรรยา ไปใช้ลงทุน
                                    สร้างงานให้เกิดรายได้ และไปใช้ทำบุญให้ทานแก่สมณะและพราหมณ์เพื่อจะ

                                    ได้ไปเกิดในสวรรค์

                                    วิธีนี้กลับก่อให้เกิดผลร้ายขึ้นในแคว้น เพราะเมื่อเห็นว่าคนที่โขมยของของ
                                    ผู้อื่นมักได้รับการพระราชทานทรัพย์เป็นการช่วยเหลือจากพระราชา คนอื่นๆ

                                    ต่างเลียนแบบทำให้ขโมยมีจำนวนเพิ่มขึ้น ต่อมาพระราชาทรงคิดได้ว่า วิธีการ
                                    แก้ปัญหาของพระองค์ผิดพลาดจึงตัดสินพระทัยใช้การลงโทษอย่างรุนแรงคือ
                                    การประหารชีวิตขโมยด้วยการตัดศีรษะประจาน


                                    มีกล่าวถึงวิธีการประหารไว้อย่างน่าสนใจคือ เจ้าหน้าที่จับขโมยเอาเชือก
                                    เหนียวมัดมือไพล่หลังอย่างแน่นหนาแล้วโกนศีรษะ จากนั้นจึงเคาะบัณเฑาะว์
        เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย       วิธีนี้กลับเกิดผลร้ายขึ้นอีก เพราะพวกขโมยเข้าใจว่าที่พวกตนถูกจับได้ก็เพราะ
                                    เสียงกร้าวแห่ประจานไปตามถนนตามตรอกซอกซอยแล้วไปออกทางประตู

                                    ด้านใต้ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของเมือง  แล้วจบลงด้วยการตัดศีรษะขโมยในที่นั้น…



                                    เจ้าของทรัพย์จำพวกตัวเองได้จึงทำให้ได้พยานหลักฐานสำคัญใช้ประกอบการ
   162   163   164   165   166   167   168   169   170   171   172