Page 306 - kpi15476

การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15 305

2 วาระๆ ละ 5 ปี (หากจะสมัครรับเลือกตั้งเป็นนากยกรัฐมนตรีเกิน
2 วาระจะต้องเว้นวรรคไปก่อน 5 ปี) การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง

ให้ใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง ผู้สมัครที่จะชนะการเลือกตั้งเป็น
นายกรัฐมนตรีจะต้องได้รับคะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด (Absolute
Majority) จากผู้มาลงคะแนนเสียงทั้งหมดคือ เกินกึ่งหนึ่งของประชาชน

ที่มาลงคะแนนสียงเลือกตั้ง ในกรณีที่ไม่มีผู้สมัครคนใดได้รับคะแนนสียง
ข้างมากเด็ดขาดในการเลือกตั้งรอบแรก ก็ให้ผู้สมัครรับคะแนนเสียง

เลือกตั้งมากที่สุดสองอันดับแรกมาลงแข่งขันเลือกตั้งในรอบที่สองจนได้รับ
คะแนนสียงข้างมากเด็ดขาด

(2) คณะรัฐมนตรี พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการ
เลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน โดยมีประธานองคมนตรี (President of

the Privy Council) เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งและ
รัฐมนตรีอื่นอีกจำนวนไม่เกิน 35 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นผู้เลือกสรร
จากบุคคลที่มิได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือสมาชิกรัฐสภา หรือ

สมาชิกองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ และมีความรู้ความสามารถซึ่งมี
คุณสมบัติตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ โดยนายกรัฐมนตรีเลือกสรร

รัฐมนตรี 4 คนเป็นรองนายกรัฐมนตรี 4 ฝ่ายคือ (1) ฝ่ายการเมืองและ
กิจการรัฐสภา (2) ฝ่ายเศรษฐกิจ (3) ฝ่ายสังคมวัฒนธรรม (4) ฝ่าย
ระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม โดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรม

ราชโองการแต่งตั้งรัฐมนตรีทั้ง 34 คนประกอบกันเป็นคณะรัฐมนตรี ซึ่งมี
อำนาจบริหารราชการแผ่นดินตามหลักนิติธรรมและมีความรับผิดชอบร่วม

กัน (Collective Responsibility) ทางด้านนโยบายการบริหารราชการ
แผ่นดินตามกรอบแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตามที่บัญญัติไว้ใน
รัฐธรรมนูญต่อพระมหากษัตริย์และสภาอภิรัฐมนตรี รวมทั้งสภา

นิติบัญญัติแห่งชาติ

3.4) ศาล (The Courts) ประกอบด้วย (1) ศาลยุติธรรมสูงสุด (The Supreme
Court of Justice) เป็นองค์กรตุลาการสูงสุดและศาลพิเศษในคดีอาญา
แผ่นดินร้ายแรงที่มาจากการเลือกตั้งและการเลือกสรรภายในระบบศาลไทย

(2) ศาลรัฐธรรมนูญ (The Constitutional Court) (3) ศาลยุติธรรม (The
Courts of Justice) (4) ศาลปกครอง (The Administrative Courts) และ

(5) ศาลทหาร (The Military Courts) ดังนี้

(1) ศาลยุติธรรมสูงสุด (The Supreme Court of Justice) เป็นศาลพิเศษ
สูงสุด ประกอบด้วย ประธานศาลยุติธรรมสูงสุด (President of the
Supreme Court of Justice) เป็นหัวหน้าอำนาจตุลาการ (Head of เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย

Judicial Power)ที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากประธานศาล