Page 303 - kpi15476
P. 303
302 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15
จากแผนภูมิที่ 2 ข้างต้น สถาบันการเมืองถือกำเนิดจากสถาบันแห่งชาติ (National
Institution) คือ ชาติ (Nation) ศาสนา (Religion) และพระมหากษัตริย์
(Monarchy) ซึ่งเป็นที่มาของอำนาจอธิปไตย (Sovereignty) โดยประเทศไทยเป็น
ประชารัฐที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
และอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย (ประชาธิปไตย-Democracy) ร่วมกับ
พระมหากษัตริย์ (ราชาธิปไตย-Royal Sovereignty) ตามหลักราชประชาสมาศัย
โดยประชาชนมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งประธานสภาอภิรัฐมนตรีและประธาน
ศาลยุติธรรมสูงสุด (โดยอ้อม) ส่วนประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สมาชิก
วุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร) และนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาล
นั้นมาจากการเลือกตั้ง (โดยตรง) รวมทั้งให้มีการปกครองตนเองในระดับท้องถิ่น
โดยระบบเทศบาลตามหลักประชาภิบาล (People Governance) ทั้งนี้ โดยต้อง
เป็นไปตามหลักธรรมาธิปไตย (Dharmacracy)
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นธรรมราชาที่ปกเกล้าปวงชนชาวไทยในระบอบ
ประชาธิปไตยตามหลักราชาภิบาล (Royal Governance หรือ The King reigns,
not rules) และหลักทศพิธราชธรรม โดยทรงเป็นพุทธมามกะและทรงเป็นอัคร
ศาสนูปถัมภกทุกศาสนา ซึ่งพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นถือเป็นบ่อเกิดของ
ธรรมาธิปไตย (Dharmacracy) และหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) เพื่อ
ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยนิติรัฐ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของ
สภาอภิรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร) รัฐบาล
(นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี) และศาลทุกศาล รวมทั้งองค์กรตาม
รัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม (The Rule of
Law)
3.1) สภาอภิรัฐมนตรี (The Supreme Council of State) เป็นสภาการ
แผ่นดินสูงสุดแห่งรัฐ โดยถือเป็นสถาบันการเมืองสูงสุดที่ใช้อำนาจรัฎฐาภิบาล
(Sovereign Governance) ในการตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจนิติบัญญัติ
อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ เพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญและระบอบ
ประชาธิปไตยภายใต้การปกครองโดยนิติรัฐตามหลักนิติธรรม ซึ่งพระมหา-
กษัตริย์ทรงแต่งตั้งสมาชิกสภาอภิรัฐมนตรีจำนวนทั้งสิ้น 45 คนที่มาจากการ
เลือกตั้งทางอ้อม ซึ่งเป็นผู้แทนโดยตำแหน่งจากผู้แทนอำนาจนิติบัญญัติ
อำนาจบริหาร อำนาจตุลาการ และอำนาจรัฏฐาภิบาลจากองค์กรตาม
เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น รวมทั้งสิ้น 22 คน ประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการ
รัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงและ/หรือโดยอ้อมจากประชาชน
รวมทั้งสิ้น 23 คน และผู้แทนโดยตำแหน่งจากการบริหารราชการแผ่นดิน
แผ่นดินภูมิภาค (Regional Administration Inspectors) จำนวน 7 คน และ
ผู้ว่าราชการมณฑลเทศาภิบาล (Governors of Provincial Municipality)
อีกจำนวน 15 คนที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน