Page 371 - kpi18886
P. 371

363




                   ชนชั้นสูงทั้งสิ้น การมีฐานะบารมีทางเศรษฐกิจ การเข้าสังคมชั้นสูงในการสมาคม

                   ต่างๆ การมีอภิสิทธิ์ การได้รับการยอมรับในฐานะที่สูงขึ้นเป็นสิ่งที่ชนชั้นกลาง
                   ปรารถนา จิตใจของชนชั้นกลางทุกวันนี้มุ่งมั่นทางวัตถุ ความมั่งคั่ง ผลประโยชน์
                   ของตนเป็นหลัก ดังนั้นการจะคาดหวังให้ชนชั้นกลาง เป็นผู้ถ่วงดุลทางการเมือง

                   ก็คงจะเป็นไปได้ยากในปัจจุบัน เพราะชนชั้นกลางทั้งหลายก็คือชนชั้นที่พยายาม
                   ทำตัวเป็นชนชั้นสูงนั่นเอง


                         เมื่อพิจารณาจากนักปรัชญาการเมืองนามอุโฆษทั้งสามแล้ว จะเห็นได้ว่า
                   เสรีภาพในรัฐนั้นเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงแต่มิใช่เสรีภาพที่สมบูรณ์แบบ (Absolute

                   freedom) ที่พลเมืองจะอ้างสิทธิในการกระทำใดๆ ก็ได้โดยเสรี เป็นเสรีภาพที่มี
                   การจำกัดโดยอำนาจรัฐผ่านการตรากฎหมายและข้อบังคับต่างๆ อันมีผลผูกพัน
                   ต่อพลเมืองของรัฐที่ต้องปฏิบัติ การปฏิเสธกฎหมาย ปฏิเสธอำนาจรัฐ ย่อมทำให้
                   สังคมมนุษย์ถดถอยไปสู่ความเป็นอนารยะซึ่งเป็นเรื่องที่นักปรัชญาการเมือง

                   เหล่านี้รับไม่ได้ และถ้าพิจารณาการเมืองการปกครองตั้งแต่ยุคคลาสสิกของ
                   ตะวันตกมาถึงปัจจุบัน มีรัฐใดหรือช่วงเวลาใดบ้างที่มนุษย์มีเสรีภาพเต็มที่โดยไม่มี
                   การจำกัดจากรัฐ ซึ่งจะเห็นได้ว่าหามีไม่ ดังนั้นเสรีภาพตามที่ปรากฏใน

                   รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบัน (พ.ศ. 2560) หรือฉบับ
                   ปีพุทธศักราช 2540 และพุทธศักราช 2550 จึงเป็นเรื่องปกติของรัฐที่จะต้อง
                   จำกัดเสรีภาพบางประการเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ในบางเรื่อง บางกรณี

                   โดยการตรากฎหมายที่ต้องมิใช่เป็นการบ่งชี้บังคับกับใครโดยเฉพาะ แต่เป็น
                   กฎหมายที่บังคับใช้แก่ทุกคนอย่างเท่าเทียม


                         ข้อสังเกตประการหนึ่งคือความคิดของนักปรัชญาสมัยคลาสสิกทั้งสามท่านนี้
                   ยังไม่มีท่านใดเลยที่พิจารณาถึงการรับผิดชอบของรัฐในการจำกัดสิทธิเสรีภาพของ
                   ประชาชน อำนาจของรัฐ การมีอยู่ของรัฐเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องยอมรับใน

                   ความคิดของนักปรัชญาการเมืองทั้งสามท่าน และถ้าพิจารณาถึงปรัชญาการเมือง
                   ตะวันตกในสมัยต่อมาอย่างสมัยโรมัน สมัยกลาง ก็จะเห็นว่าไม่ได้มีแนวคิดของ
                   นักปรัชญาการเมืองใดที่เห็นว่ารัฐจะต้องรับผิดชอบอะไรในการจำกัดเสรีภาพของ

                   ประชาชนหรือต้องชดเชยอะไรให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติของ
                   รัฐ ยิ่งในสมัยกลางที่อิทธิพลของศาสนจักรกรุงโรมมีอิทธิพลมาก มีแนวคิดการใช้
                   อำนาจรับผ่านแนวคิดเทวสิทธิ์ ผู้ปกครองมีความชอบธรรมในอำนาจการปกครอง




                                                                 บทความที่ผานการพิจารณา
   366   367   368   369   370   371   372   373   374   375   376