Page 85 - kpi18886
P. 85
77
1) การลงทุนจะต้องใหญ่มาก การลงทุนทั้งหมดสำหรับ 5 ปีแรกของ
EEC จะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านล้าน บาทหรือประมาณ 43,000 ล้าน
เหรียญสหรัฐ จากภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ตามการ
ลงทุนในประเทศไทยยังคงล้าหลังนับตั้งแต่วิกฤตในเอเชียในช่วงปี
1990-1997 ที่การลงทุนก่อนหน้านี้อยู่ที่ 40 % ของ GDP ต่อปี
ซึ่งสูงมาก ได้ลดลงครึ่งหนึ่งทั้งในภาคเอกชนและภาครัฐ ดังนั้น
กรอบการทำงานที่มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
มากและควรจะตระหนักว่าประเทศอื่นๆ เจอวิกฤต และประสบกับ
ชะตากรรมเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย หรือ อินโดนีเซีย
2) การศึกษาและการพัฒนาทักษะก็เป็นสิ่งที่จำเป็นมากและมีความ
ท้าทาย ต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเรื่องการศึกษา ลดความ
อ่อนแอทางด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ หาวิธีที่มี
ประสิทธิภาพสำหรับภาคเอกชนในการขับเคลื่อนให้มีการฝึกอบรมและ
การศึกษา ลดช่องว่างในการสร้างทักษะในการทำงานที่มีเทคโนโลยี
มากขึ้น
3) การลงทุนทางด้านนวัตกรรมจำเป็นมาก การลงทุนด้านการวิจัยและ
พัฒนาของประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบกับ GDP เฉลี่ยอยู่ที่ 0.5-
0.6% ของ GDP ต่ำกว่าหลายๆ ประเทศ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ซึ่ง
เป็นผู้นำทางด้านนี้อยู่ที่ 4% ของ GDP สิงคโปร์และประเทศจีนก็มี
การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนามากกว่า 2% ประเทศมาเลเซีย
ก็มากกว่า 1% ของ GDP ภาคเอกชนของประเทศไทยก็ลงทุนทางด้าน
วิจัยและพัฒนาต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ที่ได้กล่าวมา
ดังนั้น โปรแกรมและสถาบันเพื่อการวิจัยและพัฒนาที่มีประสิทธิภาพ
เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการขับเคลื่อนการลงทุนเทคโนโลยีและนวัตกรรม
โดยเฉพาะภาคเอกชน
4) สถาบันที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและพัฒนาทักษะต้องมีการ
เปลี่ยนแปลง ต้องเสริมสร้างขีดความสามารถของหน่วยงานของ
รัฐบาลเกี่ยวกับนวัตกรรมและสถาบันวิจัย ต้องเชื่อมโยงกับ
ปาฐกถานำ