Page 241 - kpi20756
P. 241

การประชุมวิชาการ
                                                                                        สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 21   2 1
                                                                                        ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย


                      โครงการที่หวังผลระยะสั้นๆ และโครงการส่วนมากของรัฐบาลจะมุ่งไปที่ประชาชนเป้าหมาย
                      โดยตรง โดยผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นน้อยมาก


                            ประการที่สาม พบว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมากว่าแปดสิบปีเศษ ระบบราชการยังคงเป็น
                      สถาบันที่มีความแข็งแกร่งและเป็นอุปสรรคต่อการกระจายอำนาจทางการเมืองสู่ท้องถิ่น และส่วน

                      มากมีการกระจายอำนาจทางการบริหารมากกว่า โดยการกระจายอำนาจการตัดสินใจบางส่วน
                      จากกระทรวง กรมลงสู่หน่วยงานของตนในภูมิภาคมากกว่ากระจายอำนาจให้แก่ผู้ว่าราชการ

                      จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการขยายอาณาจักรของหน่วยงาน
                      ส่วนกลางไปตั้งอยู่ในภูมิภาคมากขึ้นโดยไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัด
                      (ซึ่งสังกัดกระทรวงมหาดไทย) และเมื่อพิจารณาแผนปฏิบัติการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร

                      ปกครองส่วนท้องถิ่นที่ถูกกำหนดขึ้นตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจาย
                      อำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 จะพบว่า สิ่งที่ส่วนราชการในส่วนกลาง

                      ถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่วนใหญ่เป็นเพียงกิจกรรมย่อยๆ มากกว่าเป็นภารกิจ
                      สำคัญ


                            แต่สำหรับภารกิจสำคัญ ได้แก่ การศึกษา การสาธารณสุข ที่มีการระบุให้มีการถ่ายโอน
                      กลับปรากฏว่า มีอุปสรรคมากในการถ่ายโอนสถานศึกษาและสถานีอนามัยไปให้แก่องค์กร

                      ปกครองส่วนท้องถิ่นและได้รับการคัดค้านจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อาทิ กลุ่มองค์กรครูต่างๆ ใน
                      ประเด็นหลักๆ อยู่ 3 ประการ คือ ความไม่พร้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบริหาร
                      จัดการศึกษา ความไม่เป็นเอกภาพและความไม่มีประสิทธิภาพของระบบการศึกษา และความ

                      ก้าวหน้าและความมั่นคงในการทำงานของข้าราชการครูที่จะได้รับผลกระทบ (สุรพล นิติไกรพจน์,
                      2546, น. 26) ตลอดจนมีการกำหนดหลักเกณฑ์ในการถ่ายโอนสถานศึกษาให้แก่องค์กร

                      ปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความเจริญและความพร้อมสูง และนอกจากกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา
                      เทศบาลนคร เทศบาลเมือง ซึ่งรวมกัน 100 แห่งแล้ว จะไม่มีการโอนไปให้เทศบาลตำบล และ
                      องค์การบริหารส่วนตำบล และโรงเรียนที่อยู่ในข่ายถ่ายโอนต้องไม่อยู่ในโรงเรียน 9 ประเภท

                      ที่ห้ามถ่ายโอน เช่น โรงเรียนขนาดใหญ่ สถานศึกษาที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ เป็นต้น และตั้งแต่
                      ปี 2549 - 2557 มีการถ่ายโอนสถานศึกษาไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 485 แห่ง

                      จากจำนวนโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน 30,922 แห่ง (ข้อมูล
                      ปี 2557) คิดเป็นร้อยละ 1.57 สำหรับการถ่ายโอนสถานีอนามัย (ซึ่งภายหลังมีการเปลี่ยนชื่อ
                      เป็น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต) ก็เป็นไปอย่างล่าช้าเช่นกัน โดยมีสถานี

                      อนามัยหรือ รพ.สต.ถ่ายโอนไปอยู่กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปี 2559
                      จำนวน 51 แห่ง จากทั้งหมด 9.787 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 0.52 เท่านั้น


                            ประการที่สี่ นโยบายและแผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
                      ยังขาดเป้าหมายสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำและการสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกันในสังคม

                      ทำให้การดำเนินการของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง (ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ไม่ให้
                      ความสำคัญกับมิติความเหลื่อมล้ำอันเป็นปัญหาสำคัญมากของสังคมไทย ในขณะที่รัฐบาลมักมี                  เอกสารประกอบการสัมมนากลุ่มย่อยที่ 5

                      นโยบายที่มุ่งเน้นการสงเคราะห์ซึ่งเป็นการหวังผลระยะสั้นมากกว่าที่จะสร้างความสามารถของ
   236   237   238   239   240   241   242   243   244   245   246