Page 41 - kpi20863
P. 41
จึงทรงเข้ารับราชการกรมศิลปากร กระทรวงวัง ในต าแหน่งนายช่างผู้ค านวณออกแบบ ในพ.ศ. 2462 ทรง
เลื่อนต าแหน่งเป็นผู้ตรวจการ และได้รับพระราชทานยศเป็นเสวกเอกเมื่อพ.ศ. 2466
ในรัชกาลที่ 7 เมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยุบเลิกกรมศิลปากร และตั้งศิลปากรสถาน ราช
บัณฑิตสภา ขึ้นในพ.ศ. 2469 หม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์ก็ได้ทรงด ารงต าแหน่งผู้อ านวยการศิลปากรสถาน ได้รับ
พระราชทานยศเป็นอ ามาตย์เอกในพ.ศ. 2470 ทรงออกจากราชการหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองในพ.ศ.
2475 อย่างไรก็ดี ท่านเป็นหนึ่งในสถาปนิกสยามรุ่นบุกเบิก ที่ได้ร่วมก่อตั้งสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรม
ราชูปถัมภ์ ขึ้นในพ.ศ. 2477 และในปีเดียวกันนั้นเอง หม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์ก็ถึงชีพิตักษัยเมื่อวันที่ 14
5
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2477 ชันษา 46 ปี
ผลงานสถาปัตยกรรมของหม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์มีจ านวนไม่มากชิ้น แม้จะเป็นอาคารที่ส าคัญ
ออกแบบและก่อสร้างอย่างประณีต โดยวัสดุก่อสร้างและตกแต่งที่มีราคาสูง โดยมากเป็นงานที่ท าถวาย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศ์ชั้นสูง ได้แก่ ต าหนักใหม่ วังสระปทุม (พ.ศ. 2469) วังไกล
กังวล (พ.ศ. 2472) การปรับปรุงหมู่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท (พ.ศ. 2475) เป็นต้น ผลงานของหม่อมเจ้าอิทธิ
เทพสรรค์จึงมิได้มีอิทธิพลต่อสถาปนิกไทยรุ่นหลังเท่าใดนัก ทั้งนี้ด้วยบริบทของสังคมและวัฒนธรรมไทยที่
เปลี่ยนแปลงไปหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เป็นต้นมาด้วย อย่างไรก็ดี บทบาทส าคัญ
ประการหนึ่งของหม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์ คือการเขียนบทความเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม วิชาชีพสถาปัตยกรรม
และวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ มั้งบทบรรยาย ปาฐกถา และข้อเขียน ที่มีการตีพิมพ์ในสิ่งพิมพ์ต่างๆ ในช่วง
ปลายรัชกาลที่ 6 และช่วงรัชกาลที่ 7 เพื่อกระตุ้นให้สังคมสยามเกิดความรู้ความเข้าใจในบทบาท หน้าที่ และ
6
ความรับผิดชอบของวิชาชีพใหม่นี้
3.3.2 พระสาโรชรัตนนิมมานก์ (สาโรช สุขยางค์)
พระสาโรชรัตนนิมมานก์ นามเดิม สาโรช สุขยางค์ (ภาพที่ 3-07) เกิดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.
2438 เป็นบุตรหลวงพัฒนพงษ์ภักดี (ทิม สุขยางค์) ส าเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์และ
โรงเรียนสวนกุหลาบ ในพ.ศ. 2456 ได้รับทุนกระทรวงธรรมการไปศึกษาวิชา ณ ประเทศอังกฤษ โดยได้เข้า
ศึกษาชั้นเตรียมที่โรงเรียนเอาน์เดิล (Oundle) ซึ่งมีชื่อเสียงด้านวิชาวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์
ตามความประสงค์ของกระทรวงธรรมการที่จะให้นายสาโรชกลับมารับราชการเป็นสถาปนิก ต่อมาในเดือน
ตุลาคม พ.ศ. 2458 จึงเข้าศึกษาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล (University of
Liverpool) ซึ่งขณะนั้นถือกันว่าดีที่สุดในประเทศอังกฤษ (ภาพที่ 3-09) ได้ฝึกงานตามบริษัทสถาปนิกต่างๆ
และได้ศึกษา “วิชาสร้างเมือง” (town planning or civic design) อีกด้วย จนส าเร็จการศึกษาวิชา
สถาปัตยกรรม และประกาศนียบัตรการวางแผนผังเมือง จากมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล ในวันที่ 15 มิถุนายน
พ.ศ. 2463 และเดินทางกลับมายังประเทศไทยในปีเดียวกัน เข้ารับราชการในกองสถาปนิก กระทรวงธรรม
7
การ มีผลงานออกแบบที่ส าคัญในช่วงแรก ได้แก่ อาคารในโรงพยาบาลศิริราช
57