Page 290 - 22373_Fulltext
P. 290

มากขึ้น  เด็กสามารถใช้ภาษาในการสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น   เด็กเกิดความคิดสร้างสรรค์และได้รับความรู้จากสิ่งที่
              ตนเองสนใจ ท าให้มีความสุขกับกิจกรรมที่ได้ท า  2) ครูปรับบทบาทของตนเองจากผู้สอนเป็นเพียงผู้ให้การ

              สนับสนุนและกระตุ้นให้เด็กเกิดความอยากรู้อยากเห็น กล้าคิดกล้าแสดงออกและคิดต่อยอดไปสู่การเรียนรู้
              มากขึ้น ครูมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมความพร้อมส าหรับการตอบค าถาม การชี้แนะให้เด็กเกิดการ
              เรียนรู้ตามความสนใจของเด็กในทุกด้าน ครูได้มีการปรับตัวในการจัดรูปแบบประสบการณ์เด็กปฐมวัย โดยใช้

              แนวคิดเรกจิโอ เอมีเลีย ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19   3) ผู้ปกครองมีความสนใจและชื่นชม

              ผลงานของบุตรหลาน มีการดูแลเอาใจใส่ พูดคุย รับฟังบุตรหลานมากยิ่งขึ้น เช่น การเล่าถึงประสบการณ์
              การเรียนรู้ในแต่ละวันของเด็ก ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดประสบการณ์มากขึ้นในช่วงสถานการณ์การแพร่
              ระบาดของโควิด-19


                        11) แผนการด้าเนินงานต่อไป  ได้แก่ เทศบาลก าหนดให้มีการน ารูปแบบการจัดประสบการณ์
              ของเด็กปฐมวัยโดยใช้แนวคิดเรกจิโอ เอมีเลีย โดยจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามรูปแบบที่ก าหนดไว้ตามขั้น

              รูปแบบการจัดประสบการณ์ขั้นที่ 4-6 โดย  1) การจัดการเรียนการสอนแบบโครงการ   2) การจัดนิทรรศการ
              ผลงานนักเรียน   3) ผู้ปกครองเยี่ยมชั้นเรียน และ  4) สรุปและประเมินการจัดการเรียนรู้


                     5.4.2 โครงการการศึกษาสภาพปัญหาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ระดับปฐมวัย เพื่อน้าไปสู่
              การก้าหนดรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูปฐมวัยของสถานศึกษาในเขตเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี
                    การวิจัยขับเคลื่อนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นกลไกลดความเหลื่อมล ้าทางด้านการศึกษา
              ของเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี

                        โครงการและแผนงานที่เสริมสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาของเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี ได้แก่

              โครงการการศึกษาสภาพปัญหาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ระดับปฐมวัย เพื่อน าไปสู่การก าหนดรูปแบบ
              การพัฒนาสมรรถนะครูปฐมวัยของสถานศึกษาในเขตเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี โดยมีรายละเอียดดังนี้

                        1) ที่มาของโครงการ  เด็กปฐมวัยถือเป็นช่วงวัยที่ส าคัญและจ าเป็นที่สุดในการวางรากฐาน

              การพัฒนาในทุกด้าน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่พัฒนาการด้านต่างๆ โดยเฉพาะสมองมีการพัฒนาและเกิดการ
              เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด หากเด็กได้รับการเลี้ยงดูและการจัดการเรียนรู้ที่ดี ถูกต้องตามหลักพัฒนาการเด็ก

              จะเกิดการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพในสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลง สามารถด ารงชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 21
              มีทักษะการคิด รู้จักแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รู้เท่าทันสารสนเทศ รู้เท่าทันสากล สามารถท างานร่วมกับผู้อื่น

              แก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ รู้จักการยับยั้งชั่งใจและมีทักษะชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งปัจจุบันสังคมไทยได้เริ่ม
              ให้ความส าคัญกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย ดังปรากฏในแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579

                        การสร้างคนให้เป็นผู้ที่มีคุณภาพและอยู่ในสังคมได้นั้น ควรเริ่มต้นจากการอบรมเลี้ยงดูตั้งแต่วัยเด็ก

              ซึ่งเป็นระยะที่ส าคัญที่สุดของการพัฒนา ทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา สอดคล้องกับพระราช-

              บัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2545  ได้จัดให้การศึกษาปฐมวัยเป็นการศึกษา
              ระดับหนึ่งในการศึกษาชาติ  ได้ก าหนดปรัชญาการศึกษาและจุดมุ่งหมายในการจัดการศึกษาจะต้องเปลี่ยนไป
              เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกายและจิตใจ สติปัญญา ความรู้ คุณธรรม มีจริยธรรมและ

              วัฒนธรรมในการด ารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข  โดยเฉพาะหมวดที่ 4 มาตรา 22






      266     วิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า
   285   286   287   288   289   290   291   292   293   294   295