Page 291 - 22373_Fulltext

กล่าวว่า การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความรู้ความสามารถและพัฒนาตนเองได้ และถือว่า

ผู้เรียนส าคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาเต็มตามศักยภาพ

ครูปฐมวัยนับว่ามีบทบาทส าคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก ครูจ าเป็นต้อง

มีความรู้ความเข้าใจในการดูแลและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัย เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเด็กก่อนเข้าสู่
การศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งนี้งานศึกษาวิจัยจ านวนมากที่แสดงให้เห็นว่าการเตรียมความพร้อมให้กับเด็กในปฐมวัย
อย่างมีคุณภาพจะส่งผลดีในระยะยาวต่อพัฒนาการทางสติปัญญา รวมถึงความส าเร็จทางด้านวิชาการในระดับ

ที่สูงขึ้น ครูผู้ดูแลเด็กซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงต่อการเตรียมความพร้อมให้กับเด็กปฐมวัย จึงควรได้รับการ

เตรียมการและพัฒนาทางวิชาชีพเพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีประสบการณ์ และทักษะที่ส าคัญจ าเป็นต่อ
การจัดสภาพแวดล้อมและกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กปฐมวัย

สภาพปัจจุบัน พบว่า ในเขตเทศบาลเมืองวิเชียรบุรีมีโรงเรียนที่จัดการศึกษาระดับปฐมวัยทั้งหมด

8 โรงเรียน ได้แก่ 1) โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี (อปท.) 2) โรงเรียนอนุบาลวัดในเรืองศรีวิเชียร
บุรี (สพฐ.) 3) โรงเรียนบ้านนาไร่เดียว (สพฐ.) 4) โรงเรียนบ้านสระประดู่ (สพฐ.) 5) โรงเรียนบ้านท่าโรง

(สพฐ.) 6) โรงเรียนปาลพันธ์วิทยา (สช.) 7) โรงเรียนกาญจนาวิทยา (สช.) และ 8) โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา
(สช.) จะเห็นได้ว่า โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองวิเชียรบุรีซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี

เพียงแห่งเดียวและมีการจัดการเรียนการสอนในระดับปฐมวัย ซึ่งแต่ละปีการศึกษาจะสามารถเปิดรับสมัคร
เด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 1 ได้เพียง 75 คนเท่านั้น แต่มีนักเรียนที่สมัครเรียนเกินกว่าที่เปิดรับสมัครทุกปี

ด้วยข้อจ ากัดของสัดส่วนพื้นที่ห้องเรียนต่อนักเรียน ต้องไม่น้อยกว่า 1 ตารางเมตรต่อนักเรียน 1 คน และ
อาคารเรียนของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองวิเชียรบุรีมีเพียง 8 ห้องเรียนเท่านั้น แต่โรงเรียนในเขตเทศบาล

อีก 7 แห่ง มีจ านวนนักเรียนระดับชั้นอนุบาล น้อยกว่าโรงเรียนในสังกัดเทศบาลฯ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ
โรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับชั้นอนุบาล จ านวนนักเรียนไม่ถึง 15 คนต่อ

โรงเรียน ซึ่งทางเทศบาลเมืองวิเชียรบุรีต้องการให้โรงเรียนในเขตเทศบาลฯ มีความเท่าเทียมกันทุกแห่งไม่ว่า
เด็กนักเรียนจะเรียนในโรงเรียนใด เด็กทุกคนก็ได้รับการศึกษาระดับปฐมวัยที่เท่าเทียมหรือไม่แตกต่างกันมาก

เพราะสุดท้ายแล้วเด็กนักเรียนก็จะต้องไปเรียนในระดับประถมศึกษาในเขตพื้นที่เดียวกันและยิ่งไปกว่านั้น
ก็คือ นักเรียนก็ต้องเรียนในระดับมัธยมศึกษาโรงเรียนเดียวกันทั้งสิ้น เพราะในเขตเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี
มีโรงเรียนในระดับมัธยมปลายเพียงที่เดียว คือ โรงเรียนนิยมศิลป์อนุสรณ์ ดังนั้นการศึกษาปฐมวัยจึงเป็น การวิจัยขับเคลื่อนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นกลไกลดความเหลื่อมล ้าทางด้านการศึกษา

รากฐานที่ส าคัญยิ่งในการพัฒนาอนาคตของชาติต่อไป

ด้วยเหตุนี้เทศบาลเมืองวิเชียรบุรีจึงเล็งเห็นความส าคัญของการศึกษาระดับปฐมวัยในพื้นที่

โดยเฉพาะเด็กปฐมวัย ซึ่งบุคคลส าคัญที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย นั่นคือ ครูปฐมวัย
ทางเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี จึงต้องการศึกษาสภาพปัญหาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ระดับปฐมวัย

เพื่อน าไปสู่การก าหนดรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูปฐมวัยของสถานศึกษาในเขตเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี
การใช้แนวคิดดังกล่าว ยังเอื้อให้เกิดการพัฒนาการเรียนรู้ยั่งยืนให้กับกลุ่มครูปฐมวัยผ่านการฝึกฝนทักษะส าคัญ

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการเรียนรู้แบบร่วมมือ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือส าคัญที่ครูปฐมวัยจะได้ใช้พัฒนาตนเอง
ให้มีประสิทธิภาพในการจัดการศึกษาและการดูแลเด็ก เพื่อการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาระดับ

ปฐมวัยในเขตเทศบาลเมืองวิเชียรบุรีต่อไป

วิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า 267