Page 90 - b29259_Fulltext
P. 90
sovereign) และลงนามในพระราชบัญญัติสภาผู้แทนราษฎร (The Act
of Parliament วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2232 (ค.ศ. 1689) ที่เรารู้จัก
กันในชื่อ “บัตรแห่งสิทธิ (Bill of Rights)” สาระสำาคัญของกฎหมายนี้
คือเป็นการรับรองสิทธิต่าง ๆ ในเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดให้มีการประชุม
สภาผู้แทนราษฎรอย่างสมำ่าเสมอ การเลือกตั้งอย่างเสรีและเอกสิทธิ์คุ้มครอง
ในการแสดงความเห็นที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทั้งยังรวมถึงหลักการ
สำาคัญเรื่องอัตราพิกัดภาษีที่จะต้องผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร
เสียก่อน หลักการที่รัฐบาลจะไม่แทรกแซงกิจการของสภาผู้แทนราษฎร
หลักการให้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อศาลและหลักการพิจารณาคดีและ
การปฏิบัติต่อประชาชนของศาลยุติธรรม ซึ่งหลักการเหล่านี้เป็นพื้นฐาน
ของการร่างหลักการแห่งสิทธิในรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา เอกสารด้าน
สิทธิมนุษยชนต่าง ๆ ทั้งในคำาประกาศสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ
ตลอดจนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของสหภาพยุโรป
ในอีกด้านหนึ่ง วิวัฒนาการของสภาสามัญ (House of Commons
หรือสภาผู้แทนราษฎร) เกิดขึ้นราวคริสต์ศตวรรษที่ 13 เริ่มจากการที่
กษัตริย์กำาหนดให้ขุนนางส่วนใหญ่มีฐานันดรเป็นเอิร์ล (earls) และบารอน
(barons) มาเข้าเฝ้าเพื่อถวายคำาปรึกษาในราชสำานักในสภาที่ปรึกษาของ
กษัตริย์ (Curia Regis หรือ king’s court) ใน พ.ศ. 1797 (ค.ศ.1254)
กษัตริย์ได้เรียกอัศวิน (knight) จากมณฑล (shire) ต่าง ๆ เขตละสองคน
เพื่อถามว่ากรณีที่กษัตริย์ต้องการเงินจะสามารถช่วยเหลือได้มากน้อย
อย่างไร ต่อมาในปี พ.ศ. 1807 (ค.ศ.1264) บารอนซีโมนแห่งมงฟอร์ต
(Simone de Montfort) ซึ่งเป็นขุนนางที่มีอิทธิพลมากได้เรียกให้อัศวิน
4 นาย จากแต่ละมณฑลมาหรือเรื่องกิจการบ้านเมือง และในปีต่อมา
90