Page 77 - kpiebook62001
P. 77

การขยายการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ (3) ระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และ (4) โครงการ e-Payment

               ภาครัฐ (National e-Payment, ม.ป.ป)
                       โครงการหลักที่ 4 นี้เกี่ยวข้องกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยตรง เนื่องจากตามแผนยุทธศาสตร์ฯ นั้น รัฐบาล

               ต้องการพัฒนาระบบลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยและบูรณาการสวัสดิการ (e-Social Welfare) โดยจ่ายสวัสดิการภาครัฐ

               ตามเลขบัตรประจ าตัวประชาชนที่ได้ลงทะเบียนไว้ รวมถึงการบูรณาการฐานข้อมูลกลางในการให้ความช่วยเหลือ
               ประชาชน ซึ่งจากการสัมภาษณ์นักวิชาการจาก สศค. พบว่าในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะสามารถเก็บข้อมูลได้ราว 12-15

               ช่อง (slot) กล่าวคือ แต่ละช่องคือจ านวนเงินที่ส าหรับใช้ในกรณีต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันแบ่งแยกตามวัตถุประสงค์ที่โครงการ

               บัตรสวัสดิการแห่งรัฐจัดสรรให้ เช่น ช่องหนึ่งส าหรับการซื้อของในร้านธงฟ้า ช่องที่สองส าหรับใช้เป็นค่ารถโดยสาร
               ประจ าทาง ช่องที่สามส าหรับค่าก๊าซหุงต้ม เป็นต้น หมายความว่าการเพิ่มสวัสดิการมิติต่าง ๆ ในอนาคตสามารถท าได้

               โดยง่าย และสามารถเลือกกลุ่มเฉพาะได้ว่าจะให้สิทธิประโยชน์ลักษณะใดกับคนกลุ่มไหน ทั้งนี้ การเพิ่มสิทธิประโยชน์

               อาจแบ่งออกได้ 2 แบบ ได้แก่ การเพิ่มสิทธิประโยชน์ในแนวลึกและการเพิ่มสิทธิประโยชน์แนวกว้าง
                       (1) การเพิ่มสิทธิประโยชน์ในแนวลึก เป็นการเพิ่มสิทธิประโยชน์ผ่านช่องที่มีการจัดท าอยู่ก่อนแล้ว

               ตัวอย่างเช่นการเพิ่มวงเงินในช่องส าหรับการซื้อสินค้าในร้านธงฟ้า ส าหรับผู้ถือบัตรที่เข้าร่วมโครงการฝึกอาชีพอีก 100-

               200 บาทต่อเดือน หรือในเดือนกันยายน พ.ศ. 2561 โครงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT ร้อยละ 7) ให้กับผู้มีรายได้น้อย
               โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ เสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามปกติร้อยละ 1 น าเข้าบัญชีหรือส่งเข้ากองทุนการออมแห่งชาติร้อยละ 1

               และคืนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-money) ร้อยละ 5 เริ่มใช้เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561

                       ส าหรับช่องค่าโดยสารรถประจ าทาง ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2561 กระทรวงคมนาคมได้เข้าร่วมการขยาย
               สิทธิโดยให้ผู้มีบัตรน าไปใช้เป็นค่าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ าเงินได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561

               และสามารถน าไปใช้กับรถไฟฟ้า แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2561

                       (2) การเพิ่มสิทธิประโยชน์ในแนวกว้าง เป็นการขยายสิทธิประโยชน์ออกไปจากที่มีอยู่เดิม ในบางเรื่องยังเป็น
               ข้อเสนอซึ่งยังไม่มีการยืนยันในทางปฏิบัติ เช่น ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561 กระทรวงการคลังเสนอคณะรัฐมนตรี ขอให้

               ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นบุคคลที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อีกตัวอย่าง

               หนึ่งคือวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2561 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง
               หารือกับบริษัท ปตท. จ ากัด (มหาชน) ในการหาแนวทางอุดหนุนค่าน้ ามันเพื่อดูแลผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอาชีพ

               มอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพื่อให้ความช่วยเหลือในช่วงที่ราคาน้ ามันก าลังสูงขึ้น

                       ตัวอย่างของการเพิ่มสวัสดิการที่จัดท าไปแล้วคือ 4 มาตรการเพิ่มเติมในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ได้แก่
               (1) มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ าประปา โดยให้ใช้ไฟฟ้าเป็นเงิน 230 บาทครัวเรือนต่อเดือน และน้ าประปา

               เป็นเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (2) มาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปีให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

               โดยสามารถถอนออกมาเป็นเงินสดจ านวน 500 บาทได้ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 เพียงครั้งเดียว (3) มาตรการ
               ช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายสุขภาพส าหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย สามารถถอนออกมา

               เป็นเงินสดได้เช่นกัน เป็นจ านวนเงิน 1,000 บาท (4) มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้านส าหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย โดย

                                                               68
   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82